previous arrow
next arrow
Slider

การแบ่งมรดกที่ดิน ใครมีสิทธิ์รับมรดกที่ดินจากผู้เสียชีวิต

ตรวจสอบโฉนดที่ดิน
ตรวจสอบโฉนดที่ดิน
มิถุนายน 28, 2024

การแบ่งมรดกที่ดิน ใครมีสิทธิ์รับมรดกที่ดินจากผู้เสียชีวิต

การแบ่งมรดกที่ดิน ใครมีสิทธิ์รับมรดกที่ดินจากผู้เสียชีวิต

การแบ่งมรดกที่ดิน ใครมีสิทธิ์รับมรดกที่ดินจากผู้เสียชีวิต

การแบ่งมรดกที่ดิน ใครมีสิทธิ์รับมรดกที่ดินจากผู้เสียชีวิต

 

การแบ่งมรดก ไม่มีพินัยกรรม ต้องทำอย่างไร เป็นเรื่องที่หลายๆคนสงสัย บทความนี้มีคำตอบ ที่ดินเปรียบเสมือนขุมทรัพย์ที่มีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามกาลเวลา จึงไม่น่าแปลกใจที่ที่ดินกลายเป็นมรดกอันล้ำค่าที่ครอบครัวต่างๆ ตั้งใจถนอมเก็บรักษาและส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น  นอกจากการสืบทอดมรดกที่ดินแล้ว หลายครอบครัวก็ยังมีการแผนซื้อที่ดินเพื่อเก็บรักษาไว้เป็นมรดกอันมีค่าสำหรับลูกหลานในอนาคต โดยมองว่าที่ดินเป็นการลงทุนที่มั่นคงและมีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว เมื่อกล่าวถึงเรื่องมรดก โดยเฉพาะมรดกที่ดินแล้ว การทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายแบ่งมรดกที่ดิน ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้การจัดการมรดกเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและเป็นธรรมกับทุกฝ่าย บทความนี้รวมเรื่องสำคัญ ที่เกี่ยวกับการแบ่งมรกดกที่ดินว่ามีอะไรบ้าง มาอ่านไปพร้อมๆกัน 

 

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายมรดกที่ดินในประเทศไทย

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายมรดกที่ดินในประเทศไทย

กฎหมายมรดกที่ดิน คือ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการสืบทอดกรรมสิทธิ์ในที่ดินหลังจากการเสียชีวิตของเจ้าของที่ดิน โดยหลักๆ แล้ว การ โอนที่ดินจากผู้เสียชีวิต ตามกฎหมายจะกำหนดวิธีการแบ่งมรดกที่ดินให้แก่ทายาทหรือตามที่ระบุไว้ในพินัยกรรม รวมถึงการจัดการข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทายาทได้เป็นอย่างดี เพื่อให้แน่ใจว่าการถ่ายโอนทรัพย์สินเป็นไปอย่างราบรื่นและเป็นธรรม ดังนี้

 

1) กฎหมายมรดกที่ดินมีความสำคัญที่ควรเข้าใจ โดยสิ่งแรกที่ควรรู้คือที่ดินที่เป็นมรดกจะตกเป็นของผู้ที่เจ้าของที่ดินได้ระบุไว้ในพินัยกรรม ซึ่งกระบวนการนี้เรียกว่า “การรับมรดกที่ดินตามพินัยกรรม” นั่นหมายความว่าการมอบที่ดินจะเป็นไปตามความประสงค์ของเจ้าของที่ดินที่ได้กำหนดไว้ในเอกสารพินัยกรรมที่จัดทำขึ้น

2) กฎหมายมรดกที่ดินข้อที่สองที่ควรทราบคือ ถ้าเจ้าของที่ดินไม่ได้จัดทำพินัยกรรมไว้ ที่ดินนั้นจะถูกส่งต่อไปยังทายาทตามลำดับที่กำหนดโดยกฎหมาย ซึ่งเรียกว่า “ทายาทตามกฎหมาย” นั่นหมายความว่าการแบ่งมรดกที่ดินจะเป็นไปตามกฎเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดไว้ เพื่อระบุว่าใครจะได้รับสิทธิประโยชน์หรือเป็นผู้ถือครองที่ดินต่อจากเจ้าของที่เสียชีวิตไป

3) ข้อถัดไปในกฎหมายมรดกที่ดินคือ บุคคลที่มีสิทธิ์รับมรดกที่ดินต้องดำเนินการขอจดทะเบียนการรับโอนมรดกที่สำนักงานที่ดิน ซึ่งการจดทะเบียนนี้มีข้อกำหนดในเอกสารที่ต้องนำไปยื่นตามรายละเอียดดังนี้

  • ตามกฎหมายมรดกที่ดิน หากเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นโฉนดที่ดินหรือเอกสาร น.ส. 3 ข. ผู้ที่ต้องการจดทะเบียนการรับโอนมรดกที่ดินจะต้องยื่นคำขอที่สำนักงานที่ดินในจังหวัดหรือที่สำนักงานที่ดินสาขาของจังหวัดนั้นๆ
  • ตามกฎหมายมรดกที่ดิน หากเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็น น.ส.3 หรือ น.ส.3 ก. ผู้ที่ต้องการดำเนินการจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินจะต้องยื่นคำขอที่สำนักงานที่ดินในอำเภอ

4) การจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินในพื้นที่ที่ยกเลิกอำนาจของนายอำเภอ ในกรณีที่พื้นที่ที่ตั้งของมรดกที่ดินได้ยกเลิกอำนาจของนายอำเภอในการจดทะเบียนที่ดินแล้ว ทายาทผู้รับมรดกที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดิน น.ส.3 หรือ น.ส.3 ก., น.ส.3 ข. จะต้องดำเนินการจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสำนักงานที่ดินจังหวัดสาขาที่ที่ดินตั้งอยู่ ตามที่กฎหมายมรดกที่ดินกำหนด เนื่องจากการจดทะเบียนรับโอนมรดกที่ดินที่สำนักงานที่ดินจังหวัดหรือสาขาจะช่วยให้ทายาทได้รับกรรมสิทธิ์ในที่ดินมรดกอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถใช้สิทธิ์ในที่ดินได้อย่างราบรื่น

 

ทายาทที่มีสิทธิรับมรดกที่ดิน ใครบ้างที่ได้รับสิทธิ์

ในทางกฎหมายเกี่ยวกับมรดกที่ดิน การส่งมอบมรดกที่ดินจะจัดแบ่งผู้ที่มีสิทธิ์ออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้

1. การรับมรดกที่ดินโดยสิทธิตามพินัยกรรม

หากผู้เสียชีวิตได้ทำพินัยกรรมไว้ ที่ดินจะตกเป็นของบุคคลหรือหน่วยงานที่ระบุชื่อไว้ในเอกสารทางกฎหมายนี้ พินัยกรรมมีอำนาจเหนือการกระจายมรดกอื่นๆ ทั้งหมด

การรับ โอนที่ดินจากผู้เสียชีวิต โดยสิทธิตามพินัยกรรม

2. การรับมรดกที่ดินโดยสิทธิตามกฎหมาย

ในกรณีที่ผู้เสียชีวิตไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้  การแบ่งมรดก ไม่มีพินัยกรรม โดยทั่วไปแล้วที่ดินจะตกทอดแก่ทายาทตามลำดับในทางกฎหมาย หรือ ทายาทโดยธรรม  ซึ่งได้แก่ดังนี้

ลำดับผู้ได้รับมรดกที่ดิน ในทางกฎหมาย การ โอนที่ดินจากผู้เสียชีวิต

ลำดับผู้ได้รับมรดกที่ดิน ตามลำดับในทางกฎหมาย

  • ลำดับที่ 1  ผู้สืบสายโลหิต (บุตร, หลาน, เหลน, ลื้อ)
  • ลำดับที่ 2 บิดาและมารดา 
  • ลำดับที่ 3 พี่น้องร่วมสายโลหิตแท้ๆ จากทั้งบิดาและมารดาเดียวกัน
  • ลำดับที่ 4 พี่น้องสายโลหิต ร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน (พี่น้อง คนละพ่อ หรือ พี่น้องคนละแม่)
  • ลำดับที่ 5 ปู่ ย่า ตา ยาย
  • ลำดับที่ 6 ลุง ป้า น้า อา

ผู้ได้รับมรดกที่ดิน ตามลำดับในธรรม

  • คู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ ถือเป็นทายาทโดยธรรมลำดับแรกที่มีสิทธิรับมรดกของผู้ตาย ร่วมกับทายาทโดยธรรมลำดับอื่นๆ ทั้ง 6 ลำดับ

 

หลักเกณฑ์การจัดสรรมรดกที่ดินตามกฎหมาย

หลักเกณฑ์การจัดสรรมรดกที่ดินตามกฎหมาย

การจัดสรรมรดกตามลำดับชั้น

  • หากผู้ตายมีทายาทหลายลำดับตามกฎหมาย ทายาทที่อยู่ในลำดับแรกจะได้รับมรดกก่อน ส่วนทายาทในลำดับถัดไปจะไม่มีสิทธิ์ได้รับมรดกจนกว่าทายาทในลำดับแรกจะได้รับมรดกครบถ้วนแล้ว
  • ในกรณีที่เจ้ามรดกมีทายาทในลำดับที่หนึ่ง แต่ทายาทในลำดับแรกได้เสียชีวิตแล้ว และมีการแต่งตั้งผู้รับมรดกแทนที่ไว้แล้ว และหากบิดาหรือมารดาของเจ้ามรดก ซึ่งถือเป็นทายาทในลำดับที่สอง ยังมีชีวิตอยู่ บิดาหรือมารดานั้นจะได้รับมรดกในฐานะที่เป็นทายาทในลำดับที่หนึ่งแทน

โดยสรุป หากเจ้ามรดกยังมีบุตรและบิดาหรือมารดาที่มีชีวิตอยู่ บิดาหรือมารดาจะมีสิทธิ์ได้รับมรดกตามลำดับเช่นกัน

การสืบทอดมรดกในฐานะตัวแทน

1) หากทายาทใน ลำดับที่ 1  ผู้สืบสายโลหิต (บุตร, หลาน, เหลน, ลื้อ) , ลำดับที่ 3 (พี่น้องแท้ๆร่วมบิดามารดาเดียวกัน) , ลำดับที่ 4 (พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน) หรือ ลำดับที่ 6 (ลุง ป้า น้า อา) เสียชีวิตก่อนผู้ให้มรดก ทายาทลำดับถัดไปจะรับมรดกแทนที่ทายาทที่เสียชีวิตไป โดยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

• ผู้สืบสายโลหิตของทายาทที่เสียชีวิตจะรับมรดกแทนที่ทายาทนั้นๆ
• หากผู้สืบสายโลหิตของทายาทที่เสียชีวิตก็เสียชีวิตเช่นกัน ผู้สืบสายโลหิตของผู้สืบสายโลหิตจะรับมรดกแทนที่
• การรับมรดกแทนที่นี้จะสืบต่อกันไปจนกว่าจะหมดสายผู้สืบสายโลหิต

2) หากทายาทในลำดับที่ 2 (บิดาและมารดา) หรือ 5 (ปู่ ย่า ตา ยาย) เสียชีวิตก่อนที่เจ้ามรดกจะถึงแก่กรรม มรดกจะไม่สามารถถูกส่งต่อให้กับผู้สืบสันดานของทายาทเหล่านั้นได้ และจะไม่มีการสืบทอดมรดกไปยังผู้สืบสันดานต่อไป

สิทธิ์ของคู่สมรสในการสืบทอดมรดก

ถ้าผู้เสียชีวิต(เจ้ามรดก) มีคู่สมรสที่ยังมีชีวิตอยู่ ก่อนที่จะแบ่งทรัพย์สินให้กับทายาทอื่นๆ การ โอนที่ดินจากผู้เสียชีวิต จะต้องจัดการแบ่งทรัพย์สินระหว่างคู่สมรสก่อน ตามสิทธิที่คู่สมรสมี ซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่คล้ายกับการหย่าร้าง โดยให้คู่สมรสได้รับทรัพย์สินตามสิทธิของตนก่อน จากนั้นทรัพย์สินที่เหลือจะถูกแบ่งปันระหว่างทายาทของผู้เสียชีวิต คู่สมรสที่ยังมีชีวิตจะมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งเพิ่มเติมตามกฎหมายอีกครั้งหนึ่งด้วย

1) หากทายาทลำดับที่ 1 ผู้สืบสายโลหิต (บุตร, หลาน, เหลน, ลื้อ) ยังมีชีวิตอยู่ หรือแม้ว่าจะเสียชีวิตไปแล้ว แต่มีผู้รับมรดกแทนที่กำหนดไว้ คู่สมรสจะได้รับส่วนแบ่งของทรัพย์สินในลักษณะที่เทียบเท่ากับทายาทลำดับที่ 1 หรือบุตรตามลำดับของกฎหมาย

2) หากทายาทลำดับที่ 3  (พี่น้องแท้ๆร่วมบิดามารดาเดียวกัน) ยังมีชีวิตอยู่ หรือแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่มีผู้รับมรดกแทนที่ หรือกรณีที่ไม่มีทายาทลำดับที่ 1 แต่มีทายาทลำดับที่ 2 (บิดาและมารดา ) คู่สมรสจะได้รับส่วนแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งของมรดกทั้งหมด

3) หากทายาทลำดับที่ 4 (พี่น้องร่วมบิดาหรือมารดาเดียวกัน) หรือ ลำดับ 6 (ลุง ป้า น้า อา) ยังมีชีวิตอยู่ หรือแม้จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่มีผู้รับมรดกแทนที่ หรือหากมีทายาท ลำดับที่ 5 (ปู่ ย่า ตา ยาย)  คู่สมรสจะได้รับส่วนแบ่งของมรดกทั้งหมดเป็นสองในสามส่วน

4) หากไม่มีทายาทหรือผู้รับมรดกตามลำดับที่กฎหมายกำหนด คู่สมรสจะได้รับสิทธิในการรับมรดกทั้งหมด

 

เอกสารหลักฐานที่จำเป็นสำหรับการขอรับมรดกที่ดิน

เอกสารหลักฐานที่จำเป็นสำหรับการขอรับมรดกที่ดิน

เพื่อขอรับมรดกในกรณีที่ไม่มีผู้จัดการมรดก คุณจะต้องเตรียมหลักฐานดังต่อไปนี้

1. โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ ใช้เพื่อแสดงสิทธิในทรัพย์สินที่เป็นมรดก

2. บัตรประจำตัวประชาชน เพื่อพิสูจน์ตัวตนของผู้ขอรับมรดก

3. ทะเบียนบ้าน ใช้ในการยืนยันที่อยู่และสถานะการพำนัก

4. หลักฐานการตายของเจ้ามรดก เช่น มรณบัตร เพื่อยืนยันการเสียชีวิตของผู้ที่มอบมรดก

5. พินัยกรรม (ถ้ามี) ใช้แสดงความประสงค์ของเจ้ามรดกในการจัดการมรดก

6. หลักฐานการสมรส **กรณี** หากผู้ขอรับมรดกเป็นคู่สมรส ต้องแสดงหลักฐานการสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย

7. ทะเบียนสมรสหรือหลักฐานการรับรองบุตร **กรณี** สำหรับบิดาของเจ้ามรดก เพื่อพิสูจน์ความสัมพันธ์กับมารดาของเจ้ามรดก

8. หลักฐานการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม **กรณี** หากผู้ขอรับมรดกเป็นบุตรบุญธรรม

9. สัญญาประนีประนอมยอมความหรือคำพิพากษาที่ถึงที่สุด **กรณี** หากมีข้อพิพาทเกี่ยวกับมรดก

10. หลักฐานการตายของทายาท **กรณี**  ถ้ามีผู้มีสิทธิรับมรดกร่วมกันหลายคนและบางคนได้เสียชีวิตไปแล้ว

การเตรียมเอกสารเหล่านี้อย่างครบถ้วนจะช่วยให้กระบวนการขอรับมรดกเป็นไปได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว

 

อัตราค่าธรรมเนียมสำหรับการลงทะเบียนมรดกที่ดิน

ในการดำเนินการเกี่ยวกับมรดกที่ดิน จะมีค่าธรรมเนียม ตามรายการดังนี้

1. ค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอ มีอัตราค่าธรรมเนียมแปลงละ 5 บาท สำหรับการยื่นคำขอเกี่ยวกับมรดกที่ดิน

2. ค่าธรรมเนียมการประกาศมรดก ค่าใช้จ่ายในการประกาศมรดกสำหรับที่ดินแต่ละแปลงจะอยู่ที่ แปลงละ 10 บาท

3. ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนผู้จัดการมรดก สำหรับการจดทะเบียนผู้จัดการมรดกที่ดิน จะมีค่าใช้จ่ายแปลงละ 50 บาท

4. ค่าธรรมเนียมการโอนมรดกที่ดิน การโอนมรดกที่ดินจะมีค่าใช้จ่ายคิดตามราคาประเมินทุนทรัพย์ โดยจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ 2 ของมูลค่าทรัพย์สิน

5. ค่าธรรมเนียมการโอนมรดก ระหว่างบุพการีและผู้สืบสายโลหิตหรือคู่สมรส ค่าใช้จ่ายจะคิดตามราคาประเมินทุนทรัพย์ในอัตราร้อยละ 0.5

 

ช่วงเวลาดำเนินการรับสิทธิ์มรดกที่ดิน

เมื่อบุคคลใดเสียชีวิต มรดกของบุคคลนั้นจะถูกส่งต่อให้แก่ทายาทโดยอัตโนมัติทันที อย่างไรก็ตาม กฎหมายไม่ได้กำหนดกรอบเวลาให้ทายาทยื่นขอรับมรดก แต่หากมรดกที่เกี่ยวข้องเป็นที่ดิน ทายาทจำเป็นต้องทำการจดทะเบียนรับมรดกเพื่อให้มีหลักฐานทางทะเบียนที่ชัดเจน หากทายาทมีความประสงค์ที่จะดำเนินการทางกฎหมาย เช่น การขายหรือจำนองที่ดิน ก็ไม่สามารถทำได้จนกว่าจะได้จดทะเบียนรับมรดกที่ดินดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ระยะเวลาในการรับมรดกที่ดินอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น ความซับซ้อนของมรดก จำนวนทายาท และกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาในการรับมรดกที่ดินมีดังนี้

การจัดการมรดก

หลังจากบุคคลเสียชีวิต ทายาทหรือผู้จัดการมรดกจะต้องดำเนินการจัดการมรดก โอนที่ดินจากผู้เสียชีวิต ซึ่งรวมถึงการรวบรวมทรัพย์สิน จัดทำบัญชีหนี้สิน และแจ้งหนี้สินให้เจ้าหนี้ทราบ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของมรดก

การแบ่งมรดก

เมื่อมีการจัดการมรดกแล้ว ทายาทจะต้องตกลงกันว่าจะแบ่งมรดกกันอย่างไร หากทายาทตกลงกันไม่ได้ อาจต้องยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลแบ่งมรดกให้ กระบวนการแบ่งมรดกอาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของมรดกและจำนวนทายาท

การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน

เมื่อมีการแบ่งมรดกที่ดินแล้ว ทายาทจะต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินไปยังชื่อของตนเอง กระบวนการนี้สามารถทำได้โดยการยื่นคำขอจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินในพื้นที่ กระบวนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณงานของสำนักงานที่ดิน

โดยทั่วไปแล้ว ระยะเวลาในการรับมรดกที่ดินอาจใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทายาทควรเตรียมพร้อมสำหรับกระบวนการที่อาจใช้เวลานาน และควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมาย

 

ข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นสามารถช่วยให้หลายคนเข้าใจเรื่องกฎหมายมรดกที่ดินได้มากขึ้น การรู้และเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายมรดกที่ดินไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับเรา การมีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้จะช่วยให้เราสามารถเตรียมตัวและรักษาสิทธิ์ที่เราหรือครอบครัวของเราควรได้รับอย่างถูกต้อง รวมถึงเป็นการป้องกันปัญหาข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย

เช่าโกดังสินค้า  bkkwarehouse

โกดังเก็บของ เก็บสินค้า ให้เช่าในราคาถูก  ราคารวมภาษีทุกอย่าง

ทำให้สามารถลดต้นทุนของลูกค้าได้ ที่สำคัญโกดังให้เช่า  ตั้งอยู่ในทำเลทอง !!!

ติดต่อเรา

หรือสนใจสอบถาม  โกดังเก็บสินค้าของ  bkkwarehouse
โทร 089 768 5205

LINE ID : @bkkwarehouse

https://lin.ee/5CuTpWq

คิวอาร์โค้ด บีเคเค

Top