การบริหารคลังสินค้า ในปัจจุบันกลายเป็นเรื่องท้าทายสำหรับนักธุรกิจ เนื่องจากพื้นที่คลังสินค้าไม่เพียงพอต่อการจัดเก็บสินค้าคงคลังจำนวนมาก ซึ่งเป็นปัญหาหลักของผู้ประกอบการ โรงงาน หรือโกดังให้เช่า หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหานี้อยู่ มาอ่านบทความนี้เพื่อรับข้อมูลและแนวทางการแก้ไขที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของคุณได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้น
สารบัญ
1. การบริหารคลังสินค้า คืออะไร ?
2. การรับสินค้าคงคลัง (Receiving Inventory)
- นับสินค้าคงคลัง หรือ การนับสต็อกสินค้า (Count inventory)
- ตรวจสอบความถูกต้อง (Check for accuracy)
- ติดฉลากและวางสินค้าคงคลังในห้องเก็บของ หรือ ในโกดัง (Label and place inventory in stockroom)
4. การจัดเก็บสินค้าคงคลัง (Storing Inventory)
- ล้างสต็อกสินค้าเก่าออก (Clear out stock)
- จัดเรียงสินค้า (Product placement)
- นับสินค้าคงคลังเป็นประจำ (Count inventory frequently)
6.การเลือกและการบรรจุ (Picking and Packing)
9.ขั้นตอน การบริหารคลังสินค้า การจัดส่ง
การบริหารคลังสินค้า คืออะไร ?
การบริหารคลังสินค้า คือการจัดการและปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ในคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่การรับสินค้า การจัดเก็บ การคัดเลือก บรรจุ และจัดส่งไปยังลูกค้า โดยมุ่งเน้นการลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พื้นที่ภายในคลังสินค้าเพื่อความคล่องตัวในการดำเนินงาน เป้าหมายหลักคือการตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและตรงเวลา ซึ่งส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าและความเติบโตของธุรกิจ รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในตลาดที่ไม่หยุดนิ่ง
ปัจจุบันนักธุรกิจหลายคนเลือกใช้ระบบการจัดการคลังสินค้า (WMS) หรือ Warehouse Management System เพื่อบริหารจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ WMS คือแอปพลิเคชันซอฟต์แวร์ที่ช่วยควบคุมและเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการโลจิสติกส์ในคลังสินค้า โดยสามารถติดตามสินค้าคงคลัง จัดการคำสั่งซื้อ และปรับปรุงกระบวนการเลือกและบรรจุสินค้า เพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และทำให้การจัดส่งสินค้าเร็วขึ้น สำหรับโปรแกรม WMS ที่มีหลายบริษัทเอกชนออกแบบและให้บริการ คู่มือและวิธีการใช้งานอาจมีความแตกต่างกัน
การรับสินค้าคงคลัง (Receiving Inventory)
การรับสินค้าคงคลังเป็นขั้นตอนแรกในการบริหารคลังสินค้า โดยสินค้าที่สั่งซื้อจาก ผู้ค้า (Supplier) จะต้องผ่านการตรวจสอบจำนวนและปริมาณ พร้อมทั้งเงื่อนไขต่างๆ เพื่อป้องกันความคลาดเคลื่อนของข้อมูลสินค้า พนักงานในคลังสินค้าควรบันทึกข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อยืนยันความถูกต้องก่อนที่จะนำสินค้าเข้าสู่กระบวนการจัดเก็บต่อไป
ขั้นตอน การบริหารคลังสินค้า การรับสินค้าคงคลัง
การรับสินค้าคงคลังเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการบริหารคลังสินค้า เพื่อให้การจัดเก็บเป็นระบบและป้องกันข้อผิดพลาด สินค้าที่รับเข้ามาต้องผ่านการตรวจสอบความถูกต้องก่อนดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลักดังนี้
1. นับสินค้าคงคลัง หรือ การนับสต็อกสินค้า (Count inventory)
2. ตรวจสอบความถูกต้อง (Check for accuracy)
3. ติดฉลากและวางสินค้าคงคลังในห้องเก็บของ หรือ ในโกดัง (Label and place inventory in stockroom)
การจัดเก็บสินค้าคงคลัง (Storing Inventory)
สินค้าคงคลังคือสินค้าที่รอการจำหน่ายและส่งออกให้ลูกค้า การจัดเก็บที่มีประสิทธิภาพช่วยติดตามและเคลื่อนย้ายสินค้าอย่างเป็นระเบียบ ลดการใช้พื้นที่เกินจำเป็น และรักษาสมดุลระหว่างสินค้าคงเหลือกับความต้องการ เพื่อป้องกันสินค้าล้นสต็อกหรือขาดแคลน
ก่อนดูขั้นตอนการจัดเก็บ สำหรับเจ้าของธุรกิจที่กำลังพิจารณาว่าควรเช่าโกดังหรือสร้างเอง แบบไหนคุ้มกว่ากัน เราได้สรุป 8 ข้อได้เปรียบของการเช่าโกดังและคลังสินค้า ไว้ให้แล้ว คลิกอ่านรายละเอียดที่ลิงก์ด้านล่าง แล้วไปดูขั้นตอนการจัดเก็บสินค้าคงคลังกัน
ขั้นตอน การบริหารคลังสินค้า จัดเก็บสินค้าคงคลัง
เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยเน้นการจัดเก็บสินค้าอย่างเป็นระบบ เพื่อลดต้นทุน ป้องกันสินค้าสูญหาย ควบคุมสต็อกได้แม่นยำ และรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1) ล้างสต็อกสินค้าเก่าออก (Clear out stock)
ก่อนวางสินค้าล็อตใหม่ ตรวจสอบสต็อกปัจจุบันบนชั้นวาง พร้อมระบุสินค้าที่ขายไม่ดีหรือล้าสมัย และบันทึกข้อมูลการขนย้ายอย่างเป็นระบบ แม้อาจรู้สึกเสียดายต้นทุนที่ลงทุนไป แต่การเก็บสินค้าเก่าไว้โดยไม่ระบายออกอาจสร้างภาระมากกว่า ทางที่ดีควรเร่งจำหน่าย ลดราคา หรือจัดโปรโมชั่นภายในหนึ่งปี เมื่อล้างสต็อกเดิมหมดแล้ว ค่อยสั่งสินค้าใหม่เข้ามา และอย่าลืมบันทึกการเปลี่ยนแปลงเพื่อความถูกต้องทางบัญชีปลายปี
2) จัดเรียงสินค้า (Product placement)
ใช้รถโฟล์คลิฟท์ (Forklift) จัดเรียงสินค้าเป็นชั้นๆ โดยแยกสินค้าขายดีไว้ในโซนแพ็คสินค้า ช่วยลดเวลาการเช็คสต็อกก่อนส่งออก สินค้าขายดีมีการเคลื่อนย้ายตลอด ควรจัดหมวดหมู่ชัดเจน เพื่อง่ายต่อการตรวจสอบและบริหารสต็อก ลดปัญหาสั่งสินค้ามากหรือน้อยเกินไป ดูเทคนิคการจัดเรียงสินค้า บนแผ่นพาเลทได้ที่ลิงค์ที่แนบไว้ให้ได้เลย
3) นับสินค้าคงคลังเป็นประจำ (Count inventory frequently)
การตรวจนับสินค้าคงคลังเป็นประจำช่วยให้ข้อมูลสินค้าบนชั้นวางมีความแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารคลังสินค้าอย่างเป็นระบบ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการวางแผนจัดซื้อ การจัดเก็บ และการจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าอย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังช่วยลดต้นทุนโดยระบุและแก้ไขปัญหาที่อาจกระทบต่อการดำเนินงานได้อย่างตรงจุด เพื่อป้องกันการสูญหายและลดความเสี่ยงของสินค้าเน่าเสีย ควรตรวจสอบสต็อกเป็นประจำทุกวันหรือทุกสัปดาห์ วิธีนี้จะช่วยให้ธุรกิจของคุณบริหารจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อการจำหน่ายในขั้นตอนต่อไป
การเลือกและการบรรจุ (Picking and Packing)
การคัดเลือกและบรรจุสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพเป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้มั่นใจว่าคำสั่งซื้อได้รับการตรวจสอบครบถ้วนและพร้อมจัดส่งตรงเวลา ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
ขั้นตอน การบริหารคลังสินค้า เลือกและการบรรจุ
การบริหารคลังสินค้าที่มีประสิทธิภาพเริ่มจากขั้นตอนการเลือกสินค้าและบรรจุภัณฑ์อย่างเหมาะสม เพื่อให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงเวลา
1) การเลือก (Picking)
การเบิกสินค้าตามใบสั่งคลังเป็นกระบวนการนำสินค้าคงคลังออกจากชั้นวาง เพื่อนำไปบรรจุและจัดส่งให้ลูกค้า โดยมีพนักงานตรวจเช็ครายการเป็นผู้คัดเลือกสินค้า หรือในบางกรณี นักธุรกิจก็สามารถดำเนินการเองได้ ปัจจุบันหลายคลังสินค้าใช้เทคโนโลยีช่วยลดเวลาและแรงงาน เช่น สายพานลำเลียงหรือหุ่นยนต์ ซึ่งต่างประเทศเริ่มนำมาใช้แล้ว เนื่องจากการหยิบสินค้าเป็นขั้นตอนที่ใช้เวลามากที่สุด หากกระบวนการนี้รวดเร็วขึ้น การจัดส่งก็มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดี และสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ามากขึ้น
2. การบรรจุ (Packing)
การบรรจุสินค้าเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนการจัดส่ง โดยต้องจัดเตรียมให้อยู่ในกล่องหรือถุงอย่างเหมาะสม พร้อมติดฉลากและข้อมูลติดตามพัสดุครบถ้วน **ที่สำคัญ ควรตรวจสอบความเสียหายก่อนส่งออก** เพื่อให้พัสดุถึงมือลูกค้าอย่างปลอดภัยและตรงเวลา
หลังจากเบิกสินค้าออกมาจากคลังแล้ว จะเข้าสู้ขั้นตอนการบรรจุเพื่อเตรียมการจัดส่งสินค้าดังนี้
- พิมพ์บันทึกการจัดส่ง พร้อมรายการสินค้าที่ต้องบรรจุลงกล่องทั้งหมด
- ห่อสินค้าด้วยพลาสติกกันกระแทก (Bubble Wrap) หรือวัสดุป้องกันอื่นๆ ก่อนบรรจุลงกล่อง
- ใช้เทปกาวปิดผนึกตามขอบบรรจุภัณฑ์ให้เรียบร้อยและพันให้แน่นเพื่อความมั่นคง
- ติดฉลากสินค้าและป้ายจัดส่งพร้อมหมายเลขติดตามไว้ด้านหน้ากล่อง
- สำหรับสินค้าที่บอบบาง เช่น แก้วหรือผลงานศิลปะ ควรติดสติ๊กเกอร์เตือน “ห้ามโยน” หรือ “ระวังแตก” เพื่อความปลอดภัย
- ขั้นตอนสุดท้ายส่งสินค้าถึงมือลูกค้าตามที่อยู่ที่กำหนด
การจัดส่ง (Shipping)
กระบวนการสุดท้ายในการบริหารคลังสินค้าคือการเคลื่อนย้ายสินค้าจากจุดหนึ่งไปยังจุดหมายผ่านบริษัทขนส่งภายในประเทศ หลังจากสินค้าคงคลังได้รับการตรวจสอบและผ่านกระบวนการต่างๆ อย่างถูกต้องแล้ว ก็จะถูกส่งถึงมือลูกค้า การแข่งขันในปัจจุบันมุ่งเน้นที่การจัดส่งสินค้าอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าอย่างมาก โดยมีขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอน การบริหารคลังสินค้า การจัดส่ง
- ติดต่อกับตัวแทนขนส่งหรือบริการขนส่งของธุรกิจคุณ เพื่อจัดส่งสินค้าถึงมือลูกค้าอย่างตรงเวลา
- ตรวจสอบข้อมูลพัสดุให้ครบถ้วนก่อนจัดส่ง โดยตรวจสอบให้ตรงกับใบสั่งซื้อ เช่น รหัสสินค้า ชื่อรุ่น สี ไซส์ และจำนวน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจทำให้ลูกค้าไม่พอใจหรือมีข้อร้องเรียน
- ควรแยกช่องทางการจัดส่งให้ชัดเจน เช่น แยกตามพื้นที่ ประเภทสินค้า หรือรูปแบบการขนส่ง (ขนส่งเอกชนหรือขนส่งภายในธุรกิจ) เพื่อป้องกันการปะปนกันของสินค้าและเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่ง ลดความผิดพลาดและเสียเวลา เมื่อทำตามนี้ ลูกค้าจะได้รับสินค้าตรงตามที่ต้องการอย่างแน่นอน
- หลังการจัดส่งสินค้า ควรบันทึกข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขคำสั่งซื้อ ชื่อ ที่อยู่ และข้อมูลติดต่อของลูกค้า (หมายเลขโทรศัพท์และอีเมล) รวมถึงวันที่และเวลาการจัดส่ง เพื่อสะดวกในการตรวจสอบย้อนหลัง หากพัสดุหายหรือเกิดการตกหล่น จะสามารถใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นหลักฐานในการยืนยันกับลูกค้าและติดตามพัสดุกับทางขนส่งได้
สรุป การบริหารคลังสินค้าที่เราแนะนำในบทความนี้ หากนำไปใช้จริงจะช่วยพัฒนาธุรกิจของคุณให้เติบโตและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เจ้าของธุรกิจจะเห็นภาพรวมที่ชัดเจนเกี่ยวกับลูกค้าและการขนส่งสินค้า รวมถึงการสร้างความประทับใจในการบริการลูกค้าให้ราบรื่นยิ่งขึ้น ในช่วงที่การแข่งขันสูง การจัดการคลังสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้ธุรกิจของคุณปรับตัวได้ดี ประหยัดต้นทุน และสามารถจัดส่งสินค้าขนาดใหญ่ได้ง่ายและทันเวลา ปลอดภัยถึงมือลูกค้า ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้อย่างมั่นใจ
โกดังเก็บของ เก็บสินค้า ให้เช่าในราคาถูก ราคารวมภาษีทุกอย่าง ทำให้สามารถลดต้นทุนของลูกค้าได้
ยูนิตว่าง พร้อมให้เช่า คลิ๊กดูโครงการได้ที่นี่
ที่สำคัญโกดังให้เช่า ตั้งอยู่ในทำเลทองหรือสนใจสอบถาม โกดังเก็บสินค้าของ bkkwarehouse
Hotline : 089-768-5205 / 063-829-6219 Telephone : 0-2394-5409
LINE ID : @bkkwarehouse
https://lin.ee/5CuTpWq
บทความแนะนำ
ที่ดิน ภ.บ.ท.5 คืออะไร? รู้ก่อนซื้อขาย ป้องกันปัญหาที่ดินในอนาคต
อ่านเนื้อหาเม.ย.
นิติบุคคล มีกี่ประเภท ไขข้อสงสัยเจ้าของธุรกิจมือใหม่ก็เข้าใจได้
อ่านเนื้อหาเม.ย.
เทคนิคเลือก ไฟโรงงาน อย่างไรให้สว่างมาตรฐานพอดี ถูกหลักสากล
อ่านเนื้อหาเม.ย.
Freight Forwarder กับ Shipping แตกต่างกันอย่างไร ทำไมจึงสำคัญต่อการขนส่ง
อ่านเนื้อหาเม.ย.
ค่าโอนที่ดิน 2567 อัปเดตล่าสุด เอกสารที่ต้องใช้และขั้นตอนสำคัญที่ห้ามพลาด
อ่านเนื้อหาเม.ย.
การบริหารคลังสินค้า อย่างไรให้ธุรกิจเติบโต เคล็ดลับที่คุณควรรู้
อ่านเนื้อหามี.ค.