ค่ารังวัดที่ดิน ในการแบ่งโฉนด มีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
ค่ารังวัดที่ดิน แบ่งโฉนด เป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องชำระให้กับกรมที่ดิน เพื่อดำเนินการรังวัดและแบ่งแยกโฉนดที่ดินตามความต้องการของเจ้าของที่ดิน ในปัจจุบันหลายคนที่ถือครองโฉนด ที่มีที่ดินขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นที่ดินมรดกหรือที่ดินที่ซื้อไว้นานแล้วโดยไม่ได้ใช้ประโยชน์ อาจมีความคิดที่จะแบ่งแยกที่ดินออกเป็นแปลงย่อย ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือเพื่อหาเงินจากการขายบางส่วนแทนการขายทั้งหมด นอกจากนี้ การแบ่งที่ดินยังช่วยทำให้ขายได้ง่ายขึ้น มาดูกันว่าขั้นตอนการแบ่งแยกที่ดินนั้นเป็นอย่างไร รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่ารังวัดที่ดิน บทความนี้มีคำตอบมาอ่านไปพร้อมๆกัน
การแบ่งที่ดิน สิ่งที่ควรทราบก่อนตัดสินใจ
1) ระบุวัตถุประสงค์ ขั้นแรกควรชัดเจนเกี่ยวกับเป้าหมายของการแบ่งแยกที่ดิน คนละกี่ตารางวา / คนละกี่ไร่ ซึ่งจะชัดเจนกว่าการแบ่งเป็นเปอร์เซ็น เช่น ต้องการแบ่งเพื่อขาย , แบ่งให้กับบุคคลในครอบครัว หรือใช้ในการดำเนินกิจการต่อไป
2) การวางแผนแบ่งขนาดที่ดินต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและศักยภาพในการทำกำไร เช่น ควรพิจารณาด้านที่ติดถนนหรือด้านที่หันไปทางทิศมงคลตามความเชื่อสายมู เพราะคนไทยมักคำนึงถึงทิศทางลมและแสงแดดที่เข้ามายังพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ที่ซื้อที่ดินเพื่อสร้างบ้าน
3) จัดเตรียมเอกสาร เมื่อได้วางแผนการแบ่งที่ดินเสร็จแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการเตรียมเอกสารที่จำเป็นให้ครบถ้วน เพื่อดำเนินการติดต่อหน่วยงานราชการ รวมถึงเตรียมงบประมาณสำหรับค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้พร้อม
4) ไปติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเดินทางไปยังสำนักงานที่ดินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย แม้ขั้นตอนจะไม่ซับซ้อนมาก แต่คุณอาจต้องใช้เวลาในการรอการดำเนินการ
เพียงทราบขั้นตอนต่างๆ คุณเองก็สามารถแบ่งแยกที่ดินเป็นแปลงเล็ก ๆ ได้ตามที่ต้องการอย่างง่ายดาย และนี่เป็นเพียงก้าวแรก เพราะการแบ่งขายที่ดินยังมีรายละเอียดเพิ่มเติมและประเด็นที่ต้องพิจารณาอีกมากมาย
วิธีการแบ่งแยกที่ดินมรดกที่ต้องรู้
การแบ่งแยกที่ดินมรดกมีความซับซ้อนกว่าที่ดินทั่วไป เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการจัดการมรดก จึงใช้เวลาดำเนินการนานกว่าปกติ ขั้นตอนแรกคือการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้แต่งตั้งผู้จัดการมรดก
ในกรณีที่ผู้วายชนม์ไม่ได้แต่งตั้งผู้จัดการมรดกไว้ในพินัยกรรม หรือไม่ได้มีการกำหนดไว้ล่วงหน้า ศาลจะพิจารณาแต่งตั้งผู้จัดการมรดกตามลำดับความสัมพันธ์ เช่น คู่สมรสที่จดทะเบียน บุตร และผู้สืบสกุลอื่นๆ
ผู้จัดการมรดกที่ได้รับการแต่งตั้งมีอำนาจดำเนินการแบ่งแยกที่ดินตามความประสงค์ได้ทันที สามารถยื่นคำร้องต่อรังวัดที่ดินเพื่อทำการรังวัดใหม่ เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อคำนวณขนาดที่ดินและจัดทำแผนที่ใหม่ตามผลการวัด จากนั้นจะส่งข้อมูลแผนที่ดินที่แก้ไขแล้วไปยังหน่วยงานทะเบียนเพื่อทำการบันทึกข้อมูลและอัปเดตโฉนดที่ดินใหม่”
ก่อนการแบ่ง เจ้าของที่ดินจะถูกเรียกมาเพื่อยืนยันการแบ่งและความถูกต้องของแผนที่ จากนั้นจึงจะดำเนินการออกโฉนดที่ดินแปลงใหม่และปรับปรุงโฉนดที่ดินเดิมให้เป็นปัจจุบัน
การแบ่งที่ดินในครั้งนี้จะยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของเดิม แต่สามารถเปลี่ยนชื่อผู้ถือครองได้ โดยการโอนย้ายสิทธิ์จะสามารถทำได้ในอนาคต เมื่อโฉนดที่ดินใหม่เสร็จสมบูรณ์แล้ว เจ้าของที่ดินจะต้องมาติดต่อยื่นคำร้องใหม่ เนื่องจากเป็นกระบวนการที่แตกต่างจากการแบ่งที่ดิน
การแบ่งแยกที่ดินเพื่อการลงทุน ต้องทำอย่างไร
การแบ่งที่ดินเพื่อขายนั้นมีลักษณะคล้ายกับการแบ่งที่ดินมรดก แต่จะมีขั้นตอนและเงื่อนไขที่อาจซับซ้อนกว่า ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการแบ่งที่ดิน ซึ่งอาจส่งผลให้ค่าธรรมเนียมและข้อกำหนดต่างๆ แตกต่างกันออกไป
หากคุณเป็นเจ้าของที่ดินและต้องการแบ่งแยกที่ดิน สามารถดำเนินการตามขั้นตอนที่ต้องการได้ โดยเริ่มจากการไปที่สำนักงานที่ดินเพื่อยื่นคำร้องขอรังวัดที่ดิน เจ้าหน้าที่จะเข้ามาทำการวัดที่ดิน คำนวณพื้นที่ และจัดทำแผนที่ใหม่ให้ จากนั้นข้อมูลใหม่จะถูกส่งต่อไปยังฝ่ายทะเบียนเพื่อทำการบันทึกข้อมูลตามผลการรังวัดที่ได้
เจ้าของที่ดินจะต้องเข้ามาสอบถามข้อมูลและตรวจสอบเอกสาร พร้อมทั้งชำระค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทะเบียนจะดำเนินการแก้ไขโฉนดที่ดินเดิมและออกโฉนดใหม่สำหรับที่ดินที่แบ่งแยกออกมา พร้อมประทับตรารับรองให้เรียบร้อย เมื่อลงทะเบียนเสร็จสิ้นแล้ว เจ้าของที่ดินสามารถขายที่ดินตามขนาดและจำนวนที่ระบุในโฉนดได้ทันที การขายที่ดินจะต้องทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์และชำระภาษีที่เกี่ยวข้องตามระเบียบ
ค่าใช้จ่ายในการแบ่งแยกที่ดิน สิ่งที่เจ้าของที่ดินต้องคำนึงถึง
การแบ่งแยกที่ดินมี ค่ารังวัดที่ดิน แบ่งโฉนด ใช้จ่ายหลายรายการที่ต้องชําระ ประกอบด้วย ดังนี้
ค่าธรรมเนียมออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์
- ไม่เกิน 20 ไร่ : 30 บาท / ต่อแปลง
- เกิน 20 ไร่ : 2 บาท / ต่อไร่
ค่าธรรมเนียมการพิสูจน์สอบสวนหรือตรวจสอบเนื้อที่เกี่ยวกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์
- รายแปลง: 30 บาท / ต่อแปลง
- รายวัน: 30 บาท
- ค่าคัดหรือจำลองแผนที่ดิน: 30 บาท / ต่อแปลง
- ค่าคำนวณเนื้อที่หรือสอบแส: 30 บาท / ต่อแปลง
- ค่าจับระยะ: 10 บาท / ต่อแปลง
ค่าธรรมเนียมออกโฉนดที่ดิน
- ไม่เกิน 20 ไร่ : 50 บาทต่อแปลง / ต่อแปลง
- เกิน 20 ไร่: 2 บาทต่อไร่ / ต่อแปลง
ค่าธรรมเนียมรังวัดเกี่ยวกับโฉนดที่ดิน
- รายแปลง: 40 บาท / ต่อแปลง
- รายวัน: 40 บาท
- ค่าคัดหรือจำลองแผนที่ดิน: 30 บาท / ต่อแปลง
- ค่าคำนวณเนื้อที่หรือสอบแส: 30 บาท / ต่อแปลง
- ค่าจับระยะ: 10 บาท / ต่อแปลง
ค่าธรรมเนียมเบ็ดเตล็ด
- ค่าคำขอ: 5 บาทต่อแปลง / ต่อแปลง
- ค่ามอบอำนาจ: 20 บาท / ต่อเรื่อง
- ค่าปิดประกาศให้แก่ผู้ปิดประกาศ: 10 บาท / ต่อแปลง
- ค่าพยานให้แก่พยาน: 10 บาท / ต่อคน
- ค่าหลักเขต: 15 บาท / ต่อหลัก
ค่าส่วนงานของรังวัด
- ค่าพาหนะตามประกาศกระทรวง ที่เดินทางไปรังวัดที่ดิน
- ค่าเบี้ยเลี้ยงเจ้าหน้าที่และพนักงานแบบเหมาจ่ายตามประกาศกระทรวง
- ค่าป่วยการให้เจ้าพนักงานผู้ปกครองท้องที่หรือผู้แทนที่ไปในการรังวัด: 50 บาท / ต่อวัน / ต่อคน
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ เช่น ค่าเช่าเครื่องมือ ค่าจ้างคนงาน ให้เรียกเก็บ ตามเหมาจ่าย: 100 บาท / ต่อเรื่อง
หมายเหตุ: ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามประกาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ดังนั้นผู้ที่ต้องการแบ่งแยกที่ดินควรเตรียมค่าใช้จ่ายให้เพียงพอ โดยคํานึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อค่าใช้จ่าย เช่น ขนาดพื้นที่และความยุ่งยากซับซ้อนในการดําเนินการ เป็นต้น เพื่อให้กระบวนการแบ่งแยกที่ดินเสร็จสมบูรณ์ได้อย่างราบรื่น
การประเมินค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดิน
ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 47 และ 48 ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ได้กำหนดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับการรังวัดที่ดิน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวพัน โดยระบุรายละเอียดและอัตราค่าธรรมเนียมดังต่อไปนี้
1) ค่าธรรมเนียมในการรังวัดที่ดินนั้นถูกกำหนดไว้สำหรับโฉนดที่ดิน จะมีค่าใช้จ่ายที่ 40 บาท ต่อแปลง/ต่อวัน ส่วนการรังวัดที่ดิน ที่เกี่ยวข้องกับหนังสือรับรองการทำประโยชน์ จะมีค่าใช้จ่ายที่ 30 บาท ต่อแปลง/ต่อวัน
2) ค่าธรรมเนียมสำหรับหลักเขตที่ดิน นั้นถูกกำหนดไว้ที่ 15 บาทต่อหลัก (ซึ่งคิดตามจำนวนหลักที่ใช้จริงในการทำการรังวัด)
3) ค่าใช้จ่ายในการรังวัดจะเป็นแบบเหมาจ่าย
- ค่าบริการสำหรับการส่งเอกสารหรือพัสดุทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนตอบรับอยู่ที่ 100 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุมทั้งการจัดส่งและการตรวจสอบการรับรองการรับพัสดุเพื่อความปลอดภัยและการติดตามสถานะได้อย่างชัดเจน
- ค่าป่วยการสำหรับเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลท้องที่นั้นจะอยู่ที่วันละ 50 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่จ่ายเพื่อเป็นการชดเชยให้กับเจ้าพนักงานในการทำงานและปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ตามกำหนด
- ค่าใช้จ่ายสำหรับพาหนะที่ใช้โดยพนักงานเจ้าหน้าที่และคนงานในการทำงานรังวัดจะมีการกำหนดวงเงินสูงสุดไม่เกินวันละ 800 บาท ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ครอบคลุมการเดินทางและการขนส่งที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ให้เสร็จสิ้นตามที่กำหนด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระค่าใช้จ่ายในการทำงาน
- ค่าจ้างสำหรับคนงานที่ทำการรังวัดจะอยู่ที่ 200 บาทต่อคนต่อวัน หรือ 250 บาทต่อคนต่อวัน ขึ้นอยู่กับเขตจังหวัดที่กำหนดโดยกระทรวงการคลัง โดยอัตราค่าจ้างที่ใช้จะขึ้นอยู่กับพื้นที่และเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนดเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพการทำงานในแต่ละเขต
4) ค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดินตามเกณฑ์ที่กำหนด
- สำหรับที่ดินไม่เกิน 5 ไร่ จะใช้เวลา 1 วันทำการ และค่าใช้จ่ายจะไม่เกิน 1,950 บาท
- สำหรับที่ดินไม่เกิน 15 ไร่ จะใช้เวลา 2 วันทำการ และค่าใช้จ่ายจะไม่เกิน 3,750 บาท
- สำหรับที่ดินไม่เกิน 30 ไร่ จะใช้เวลา 3 วันทำการ และค่าใช้จ่ายจะไม่เกิน 5,550 บาท
- สำหรับที่ดินไม่เกิน 50 ไร่ จะใช้เวลา 4 วันทำการ และค่าใช้จ่ายจะไม่เกิน 7,350 บาท
- สำหรับที่ดินไม่เกิน 100 ไร่ จะใช้เวลา 5 วันทำการ และค่าใช้จ่ายจะไม่เกิน 9,150 บาท
- สำหรับที่ดินไม่เกิน 150 ไร่ จะใช้เวลา 6 วันทำการ และค่าใช้จ่ายจะไม่เกิน 10,950 บาท
- สำหรับที่ดินที่เกิน 150 ไร่ จะใช้เวลา 7 วันทำการ และค่าใช้จ่ายจะไม่เกิน 12,750 บาท
ค่าใช้จ่ายที่ระบุจะครอบคลุมค่าบริการทั้งหมดสำหรับการรังวัดในแต่ละช่วงขนาดพื้นที่และระยะเวลา ตามที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดการบริการ
เจ้าของที่ดินควรติดต่อหน่วยงานไหนเมื่อทำการแบ่งที่ดิน
เมื่อต้องการแบ่งแยกที่ดิน จะมีหน่วยงานเพียงไม่กี่แห่งที่ต้องติดต่อ โดยหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องคือสำนักงานที่ดินประจำอำเภอ ซึ่งใกล้กับพื้นที่ที่ดินของคุณ ในการติดต่อจะไปที่ฝ่ายทะเบียนเพื่อแจ้งคำร้องเกี่ยวกับการแบ่งแยกที่ดิน หลังจากนั้น หน่วยงานรังวัดที่ดิน จะเข้ามามีบทบาทในกระบวนการนี้ ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยงานที่อยู่ภายใต้สำนักงานที่ดิน ดังนั้น คุณจะต้องติดต่อเพียงสำนักงานที่ดินเพียงแห่งเดียว เนื่องจากหน่วยงานรังวัดมักจะตั้งอยู่ในอาคารเดียวกัน ทำให้การดำเนินการสะดวกและไม่ซับซ้อน
ขั้นตอนการติดต่อ
1) เตรียมเอกสารที่จำเป็น
- โฉนดที่ดินฉบับจริง
- บัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทางของเจ้าของที่ดิน
- แบบคำขอแบ่งที่ดิน (ทด.13)
- แผนที่แสดงแนวแบ่งที่ดิน (ทด.14)
- ใบมอบอำนาจ (หากมีผู้รับมอบอำนาจ)
2) ยื่นเอกสารที่สำนักงานที่ดิน
- ยื่นเอกสารที่เตรียมไว้ที่สำนักงานที่ดินในเขตที่ตั้งของที่ดิน
- ชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด
3) เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเอกสาร
- เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและแผนที่เพื่อความถูกต้อง
- หากเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะออกใบเสร็จรับเงินและนัดหมายวันตรวจสอบแนวแบ่งที่ดิน
4) ตรวจสอบแนวแบ่งที่ดิน
- ในวันนัดหมาย เจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบแนวแบ่งที่ดินตามแผนที่ แล้วทำการรังวัดที่ดิน
- หากแนวแบ่งถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะลงนามรับรองในแผนที่
5) จดทะเบียนแบ่งที่ดิน
- หลังจากทำการรังวัดที่ดินตรวจสอบแนวแบ่งที่ดินแล้ว เจ้าหน้าที่จะดำเนินการจดทะเบียนแบ่งที่ดิน
- เจ้าของที่ดินจะได้รับโฉนดที่ดินฉบับใหม่สำหรับที่ดินที่แบ่งแล้ว
หมายเหตุ
- ค่าธรรมเนียมการแบ่งที่ดินจะแตกต่างกันไปตามขนาดและจำนวนแปลงที่ดินที่แบ่ง
- ระยะเวลาในการดำเนินการแบ่งที่ดินโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือน
- เจ้าของที่ดินสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานที่ดินในเขตที่ตั้งของที่ดิน