ตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งสินค้า คือภาชนะโลหะขนาดใหญ่ที่ใช้ขนส่งสินค้าทางเรือ รถไฟ และรถบรรทุก มีขนาดมาตรฐานเพื่อให้สามารถขนส่งได้สะดวก และรวดเร็ว ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และป้องกันสินค้าเสียหายระหว่างการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์มีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าที่ขนส่ง โดยทำให้การขนส่งสินค้าจำนวนมากเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประหยัดมากขึ้น
สารบัญ
1. Dry container (ตู้คอนเทนเนอร์แห้ง,ตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน)
2. Reefer container (ตู้ควบคุมอุณหภูมิ)
- คุณสมบัติ
- ตู้คอนเทนเนอร์ ควบคุมอุณหภูมิ มีกี่ประเภท
- การใช้งาน ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ
- ข้อดีของตู้คอนเทนเนอร์ชนิดนี้
3. Open top container (ตู้คอนเทนเนอร์เปิดหลังคา)
4. Flat rack container (ตู้คอนเทนเนอร์แบบพื้นราบ)
5. ISO Tank Container (ตู้คอนเทนเนอร์ บรรจุของเหลว)
6. Ventilated Container (ตู้คอนเทนเนอร์ ระบายอากาศ)
Dry container (ตู้คอนเทนเนอร์แห้ง,ตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน)
ตู้คอนเทนเนอร์ ชนิดนี้คือตู้แบบมาตรฐานหลักๆ ในประเทศไทย เป็นตู้คอนเทนเนอร์ประเภทที่ใช้กันมากที่สุด ใช้สำหรับขนส่งสินค้าที่ไม่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิ เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเสื้อผ้า
ตู้คอนเทนเนอร์แห้งมีขนาดมาตรฐาน ดังนี้
ขนาดตู้คอนเทนเนอร์ 20 ฟุต
- กว้าง : 8 ฟุต (2.44 เมตร)
- สูง : 8.5 ฟุต (2.59 เมตร)
- ยาว : 20 ฟุต (6.06 เมตร)
- การจัดเก็บสินค้า ได้ประมาณ 30 คิว
- บรรจุน้ำหนักได้ 28 ตัน 260,000 (กิโลกรัม)
- Max Volume 33 CBM.
ขนาดตู้คอนเทนเนอร์ 40 ฟุต
- กว้าง : 8 ฟุต (2.44 เมตร)
- สูง : 8.5 ฟุต (2.59 เมตร)
- ยาว : 40 ฟุต (12.19 เมตร)
- การจัดเก็บสินค้า ได้ประมาณ 60 คิว
- บรรจุน้ำหนักได้ 26 ตัน 260,000 (กิโลกรัม)
- Max Volume 67.50 CBM.
ขนาดตู้คอนเทนเนอร์ 40 ฟุต ไฮคิว (HQ)
- กว้าง : 8 ฟุต (2.44 เมตร)
- สูง : 9.5 ฟุต (2.90 เมตร)
- ยาว : 40.3 ฟุต (12.30 เมตร)
- การจัดเก็บสินค้า ได้ประมาณ 68 คิว
- บรรจุน้ำหนักได้ 26 ตัน 260,000 (กิโลกรัม)
- Max Volume 76.20 CBM.
ตู้คอนเทนเนอร์แห้งมีประตูที่ปลายด้านหนึ่งของตู้ ซึ่งสามารถเปิดออกได้เพื่อให้โหลด และขนถ่ายสินค้าได้ง่าย ประตูอาจเป็นแบบเปิดคู่ หรือเปิดเดี่ยวก็ได้
ตู้คอนเทนเนอร์แห้งมักทำจากเหล็ก หรืออลูมิเนียม และอาจมีการเคลือบ หรือทาสีเพื่อป้องกันการกัดกร่อน และความเสียหายจากสภาพอากาศ ตู้คอนเทนเนอร์แห้งบางประเภทอาจมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น การระบายอากาศ หรือการกันความชื้น เพื่อให้เหมาะกับการขนส่งสินค้าประเภทต่างๆ
การใช้งานตู้คอนเทนเนอร์แห้ง
ตู้คอนเทนเนอร์แห้งใช้สำหรับขนส่งสินค้าที่หลากหลาย รวมถึง
- สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ข้าวสาลี ข้าวโพด และถั่วเหลือง
- สินค้าอุตสาหกรรม เช่น เครื่องจักร ชิ้นส่วนรถยนต์ และวัสดุก่อสร้าง
- สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และเสื้อผ้า
- สินค้าอันตราย เช่น สารเคมี และวัสดุไวไฟ (ต้องใช้ตู้คอนเทนเนอร์แห้งที่ได้รับการรับรองเป็นพิเศษ)
ตู้คอนเทนเนอร์แห้งเป็นวิธีการขนส่งสินค้าที่ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องสินค้าจากความเสียหาย และการโจรกรรม ตู้คอนเทนเนอร์แห้งยังสามารถขนส่งได้หลายรูปแบบ เช่น ทางทะเล ถนน และราง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับการขนส่งสินค้าทั่วโลก
ข้อดีของตู้คอนเทนเนอร์ชนิดนี้
- ทนต่อสภาพอากาศเพื่อให้สินค้าคงความแห้ง และไม่เสียหายระหว่างการขนส่ง
- มีการจัดเก็บที่ปลอดภัย ป้องกันการละเมิด หรือการโจรกรรมสินค้า
- สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทำให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และคุ้มค่าในระยะยาว
- มีขนาดให้เลือกที่หลากหลายทำให้นักธุรกิจสามารถเลือกตู้คอนเทนเนอร์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสินค้าของตน
- สามารถปรับแต่งเพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัย หรือการโหลดที่เฉพาะเจาะจงได้
- ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง และเพิ่มผลกำไรสูงสุด
ข้อดีเหล่านี้ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์แบบแห้งเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับธุรกิจที่ต้องการขนส่งสินค้าทั่วโลกโดยไม่ต้องแช่เย็น หรือดูแลเป็นพิเศษ
Reefer container (ตู้ควบคุมอุณหภูมิ)
ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ เป็นตู้คอนเทนเนอร์ พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อควบคุม และรักษาอุณหภูมิภายในให้คงที่ โดยปกติจะใช้สำหรับขนส่งสินค้าที่เน่าเสียง่าย เช่น อาหาร ผลไม้ ผัก และยา
คุณสมบัติ
- มีระบบทำความเย็น หรือทำความร้อนในตัว
- สามารถตั้งค่าอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ
- มีระบบตรวจสอบ และบันทึกอุณหภูมิ
- มีฉนวนกันความร้อนเพื่อรักษาอุณหภูมิภายใน
- มีระบบระบายอากาศเพื่อให้มีการไหลเวียนของอากาศที่เหมาะสม
ตู้คอนเทนเนอร์ ควบคุมอุณหภูมิ มีกี่ประเภท
- ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิแบบแช่เย็น: รักษาอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
- ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิแบบควบคุมอุณหภูมิ: รักษาอุณหภูมิที่สูงกว่าจุดเยือกแข็ง
- ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิแบบควบคุมความชื้น: รักษาอุณหภูมิ และความชื้นที่เหมาะสม
การใช้งาน ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิ
ตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิใช้สำหรับขนส่งสินค้าที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ เช่น
- อาหาร และเครื่องดื่ม
- ผลไม้ และผัก
- ยา
- วัสดุทางชีวภาพ
- ผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไวต่ออุณหภูมิ
ข้อดีของตู้คอนเทนเนอร์ชนิดนี้
- รักษาคุณภาพ และความสดของสินค้า
- ลดการสูญเสีย และความเสียหาย
- ขยายอายุการเก็บรักษา
- ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสุขอนามัย และความปลอดภัย
- ลดความเสี่ยงของการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และเชื้อรา
Open top container (ตู้คอนเทนเนอร์เปิดหลังคา)
ตู้คอนเทนเนอร์แบบเปิดด้านบน เป็นตู้คอนเทนเนอร์ประเภทหนึ่งที่ไม่มีเพดานตู้ แต่มีด้านบนเปิดที่คลุมด้วยผ้าใบ หรือหลังคาเหล็กที่ทำหน้าที่เป็นฝาปิดเพื่อการขนส่งที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เพื่อไม่ให้สินค้าได้รับได้รับความเสียหายจากฝน และฝุ่น จะใช้งานสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีขนาดสูง กว่าตู้สินค้าปกติ (เช่น สำหรับสินค้าที่สูง 2.7 เมตร) หรือไม่สามารถโหลดผ่านประตูตู้คอนเทนเนอร์ขนาดมาตรฐานได้
ตู้คอนเทนเนอร์แบบเปิดด้านบนช่วยให้โหลด และขนถ่ายสินค้าจากด้านบนได้ง่ายโดยใช้เครน หรือรถยกในการเคลื่อนย้าย จึงเหมาะสำหรับการจัดการวัสดุที่หลวม เช่น เศษโลหะ หิน หรือแร่ธาตุ ขนาดของตู้คอนเทนเนอร์แบบเปิดด้านบนนั้นคล้ายกับตู้คอนเทนเนอร์เก็บของแห้งมาตรฐาน โดยมีความยาวทั่วไป 20 ฟุต หรือ 40 ฟุต นั่นเอง
การใช้งาน ตู้คอนเทนเนอร์เปิดหลังคา
ตู้คอนเทนเนอร์แบบเปิดหลังคาในการขนส่งวัตถุดิบ หรือสินค้าที่มีความสูงเกินความสูงของตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน
- วัตถุดิบสำหรับงานก่อสร้าง
- สินค้าที่มีรูปทรงไม่เป็นระเบียบ
- สินค้าที่มีขนาดใหญ่สูงกว่าตู้คอนเทนเนอร์ปกติ
ข้อดีของตู้คอนเทนเนอร์ชนิดนี้
- ช่วยให้สามารถบรรทุก และขนส่งสินค้าที่มีความสูงใหญ่ หรือมีลักษณะพิเศษได้ง่ายขึ้น
- ความสะดวกในการบรรทุก และลงสินค้าการมีหลังคาเปิดทำให้การบรรทุก และลงสินค้าเป็น
- ความหลากหลายในการใช้งานตู้ในการขนส่งวัตถุดิบ หรือสินค้าที่มีความสูงใหญ่ หรือมีลักษณะพิเศษได้หลากหลาย
- ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขนส่งสินค้า เนื่องจากสามารถควบคุมการบรรทุก และลงสินค้าได้อย่างมั่นใจ และปลอดภัยดังนั้น
- เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการบรรทุก และขนส่งสินค้าที่มีความสูงใหญ่ หรือมีลักษณะพิเศษที่
Flat rack container (ตู้คอนเทนเนอร์แบบพื้นราบ)
ตู้คอนเทนเนอร์ ชนิดนี้จะไม่มีผนังด้านข้าง หรือหลัง และเพดาน มีโครงสร้างเป็นรูปแบบพื้นราบ เหมาะกับสินค้าที่มีขนาดไม่พอดีกับตู้สินค้า โดยตู้ชนิดนี้จะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากสามารถบรรทุกสินค้าที่มีขนาดใหญ่ หรือมีรูปทรงพิเศษได้โดยง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น
คุณสมบัติ
- มีโครงสร้างแข็งแรงเหมาะสำหรับขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมาก
- ด้านบน และด้านล่างเป็นแผ่นเหล็ก หรือวัสดุทนทานที่ใช้เป็นพื้นฐานของสินค้า
- มีขนาดใหญ่ และสามารถใช้สำหรับขนส่งสินค้าที่มีความกว้าง หรือความสูงที่เกินกว่าคอนเทนเนอร์ปกติ
การใช้งานตู้คอนเทนเนอร์แบบพื้นราบ
เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่พิเศษ เช่น
- เครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม
- ชิ้นส่วนอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
- วัสดุก่อสร้างที่ไม่สามารถวางภายในตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐานได้เป็นอย่างดี
ข้อดีของตู้คอนเทนเนอร์ชนิดนี้
- ความสามารถในการโหลด และถอดสินค้าได้อย่างสะดวก ตู้คอนเทนเนอร์ แบบพื้นราบมักมีเสาของที่สามารถถอดได้
- ง่ายต่อการโหลด และถอดสินค้าที่มีขนาดใหญ่ โดยไม่มีการจำกัดความสูงของสินค้า
- มีน้ำหนักเบาเมื่อไม่มีสินค้าบรรจุอยู่ ทำให้การขนส่งทางทะเลเป็นไปอย่างสะดวก โดยลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง
- ความหลากหลายในการใช้งาน ตามสถานการณ์ เช่น การขนส่งวัตถุดิบ, การใช้ในโครงการพิเศษ, หรือการใช้ในโครงการก่อสร้าง
- สินค้าสามารถผูก หรือยึดให้มั่นคงบนตู้คอนเทนเนอร์แบบพื้นราบได้อย่างมั่นคง ทำให้ป้องกันการเสียหายขณะขนส่ง
- สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้งโดยไม่มีการสูญเสียมูลค่าในการใช้งาน
ISO Tank Container (ตู้คอนเทนเนอร์ บรรจุของเหลว)
ตู้คอนเทนเนอร์ ชนิดนี้จะใช้กับสินค้าที่เป็นของเหลว โดยความจุของถังจะอยู่ที่ 11,000 ลิตรถึง 26,000 ลิตร ขึ้นอยู่กับประเภทของถัง โดยคอนเทนเนอร์ชนิดนี้เรายังใช้เพื่อขนส่งของเหลวที่เป็นอันตรายด้วยโดยทั่วไป การโหลดของเหลวโดยใช้ ISO Tank จะโหลดได้ในปริมาณที่มากกว่าการโหลดถังบรรจุใส่ตู้คอนเทนเนอร์ นอกจากนี้ การใช้ ISO TANK ยังง่ายต่อการขนย้าย และบรรจุสินค้าอีกด้วย
คุณสมบัติ
- โครงสร้างทนทานถูกสร้างขึ้นจากวัสดุที่ทนทาน จากเหล็ก หรือสแตนเลส เพื่อทนทานต่อแรงกด และแรงกระแทกที่เกิดขึ้นในระหว่างการขนส่ง
- ผนังภายในตู้ได้รับการออกแบบพิเศษที่สามารถทนทานต่อสารเคมีเพื่อป้องกันการกัดกร่อน หรือการสกัดได้เป็นอย่างดี
- ภายนอก ตู้คอนเทนเนอร์ บรรจุของเหลวมักมีการออกแบบมาเพื่อป้องกันการรั่วไหลของสินค้าจากภายนอก
- มีระบบควบคุมวาล์วที่ช่วยในการควบคุมการไหลของสารเคมีในตู้ เพื่อป้องกันการรั่วไหล หรือการกดดันที่ไม่เหมาะสม
- บางตู้คอนเทนเนอร์บรรจุของเหลวอาจมีสิ่งอำนวยความสะดวกเสริม เช่น ระบบตรวจวัดระดับสารเคมี, ระบบควบคุมอุณหภูมิ, หรือระบบตรวจจับการรั่วไหล
- มีการออกแบบให้ทนทานต่อสภาพอากาศ และสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น ความร้อน, ความเย็น, และความชื้น
การใช้งานตู้คอนเทนเนอร์บรรจุของเหลว
เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่เป็นวัตถุอันตราย
- น้ำมัน
- เคมีภัณฑ์
- สารเคมีต่างๆ
ข้อดีของตู้คอนเทนเนอร์ชนิดนี้
- มีโครงสร้างที่แข็งแรงเพื่อป้องกันการรั่วไหล หรือการเสียหายของสินค้าในระหว่างการขนส่ง
- มีความสะดวกสบายในการใช้งานสามารถถูกเชื่อมต่อ และยกขึ้นรถบรรทุก หรือรถไฟได้โดยตรง
- มีการจัดการที่ง่าย เนื่องจากสามารถใช้งานร่วมกับระบบโลจิสติกส์ และการขนส่งแบบมาตรฐานได้
- ประหยัดทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายในการถ่ายโอนสินค้าที่เป็นของเหลว โดยไม่ต้องใช้การบรรจุ และถอดแยก
- นำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้งโดยไม่มีการสูญเสียมูลค่าในการใช้งาน
- ป้องกันการสลายจากสภาพแวดล้อม เช่น ความร้อน, ความเย็น, และความชื้น
- ใช้บรรจุการขนส่งสินค้าที่หลากหลายได้ เช่น น้ำมัน, เคมีภัณฑ์, และสารเคมีต่างๆ
Ventilated Container (ตู้คอนเทนเนอร์ ระบายอากาศ)
ตู้คอนเทนเนอร์ชนิดระบายอากาศ หรือเป็น ตู้คอนเทนเนอร์ ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีการหมุนเวียนของอากาศภายใน เพื่อช่วยระบายอากาศ และความชื้นออกไปจากตู้ ซึ่งมีคุณสมบัติ และการใช้งานที่แตกต่างจากตู้คอนเทนเนอร์ทั่วไป
คุณสมบัติ
- มีระบบระบายอากาศที่ช่วยให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ในตู้คอนเทนเนอร์ โดยปกติมักมีช่องระบายอากาศที่ตั้งอยู่ด้านบน หรือด้านล่างของตู้
- มีความสามารถในการระบายความชื้นออกไปจากตู้ ทำให้สามารถลดความชื้นภายในตู้ลงได้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเสียหายของสินค้า
- มีโครงสร้างเหล็ก หรือสแตนเลสที่ทนทานเพื่อให้รองรับการระบายอากาศ และความชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ
- มีโครงสร้างที่แข็งแรงที่สามารถทนทานต่อการใช้งานที่มีการเคลื่อนไหว และการโหลดสินค้า
- ป้องกันการเสียหายของสินค้า การระบายอากาศ และความชื้นช่วยลดความชื้นภายในตู้
- เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศร้อน หรือชื้น
การใช้งานตู้คอนเทนเนอร์ระบายอากาศ
เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่ห้ามโดนความชื้น
- เมล็ดกาแฟ
- เมล็ดโกโก้
- ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการเกษตร
ข้อดีของตู้คอนเทนเนอร์ชนิดนี้
- ช่วยรักษาความสดของสินค้าที่อยู่ภายใน ลดความเสี่ยงต่อการเสียหายของสินค้า จากการเน่าเสีย หรือการกัดเซาะ
- ช่วยในการระบายอากาศที่อาจมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ออกไปจากตู้ ซึ่งช่วยในการรักษาความสะอาด และความสดของสินค้า
- ช่วยลดความร้อน และความชื้นภายในตู้
- มีความหลากหลายในการใช้งาน ราคาถูกกว่าตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมอุณหภูมิ
- ลดความเสี่ยงต่อความสะดวกในการเข้าถึงสินค้าที่มีคุณภาพ และเมื่อถึงมือผู้รับ มีสภาพพร้อมจัดจำหน่ายทันที
สรุป การเลือกใช้ประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ขึ้นอยู่กับลักษณะของสินค้าที่ต้องการขนส่ง และเงื่อนไขการใช้งานของแต่ละสถานการณ์ เพื่อให้มั่นใจว่าการขนส่งสินค้าจะเป็นไปอย่างปลอดภัย และมีประสิทธิภาพที่สูงที่สุดต่อธุรกิจที่คุณกำลังดำเนินการอยู่


บทความแนะนำ
Reverse Logistics กลไกคืนสินค้าที่พลิกต้นทุนให้เป็นรายได้ คืออะไร?
อ่านเนื้อหาพ.ย.
ธุรกิจยุคใหม่ต้องรู้! 3PL คือ อะไร ทำไมถึงช่วยลดต้นทุนได้จริง
อ่านเนื้อหาต.ค.
สรุปความหมายของ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) ฉบับเข้าใจง่าย
อ่านเนื้อหาต.ค.
ขนส่ง ระหว่าง ประเทศ 2025 รวมบริษัทชั้นนำ พร้อมเปรียบเทียบราคาและบริการ
อ่านเนื้อหาก.ย.
เจาะลึก! การขนส่งมีกี่ประเภท แต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง?
อ่านเนื้อหาก.ค.
คลีนรูม คืออะไร? มีกี่ประเภท และทำไมถึงสำคัญต่ออุตสาหกรรมยุคใหม่
อ่านเนื้อหามิ.ย.