boi คืออะไร ให้สิทธิและประโยชน์การลงทุนในกิจการอะไรบ้าง

boi คืออะไร ให้สิทธิและประโยชน์การลงทุนในกิจการอะไรบ้าง

BOI คือ อะไร และมีบทบาทอย่างไร? หลายคนอาจสงสัย บีโอไอ (BOI) เป็นหน่วยงานรัฐบาลที่มีหน้าที่หลักในการส่งเสริมการลงทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในประเทศไทย คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2509 (ค.ศ. 1966) และดำเนินงานมากว่า 57 ปี ด้วยภารกิจสนับสนุนการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับนักลงทุนและนักธุรกิจ การเข้าใจบทบาทของ BOI เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหน่วยงานนี้มีส่วนช่วยสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

เจาะลึกบทบาทของ BOI ในการส่งเสริมการลงทุนและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พร้อมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับกระบวนการสนับสนุนการลงทุนและสิทธิประโยชน์ที่นักลงทุนจะได้รับ มาอ่านข้อมูลไปพร้อมๆกัน

boi คือ อะไร

boi คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท) หรือ ชื่อเต็ม ภาษาอังกฤษ : Board of Investment เป็นหน่วยงานรัฐบาลไทยที่มุ่งส่งเสริมการลงทุนผ่านมาตรการจูงใจ เช่น การยกเว้นหรือลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล รวมถึงอากรขาเข้าสำหรับเครื่องจักรและวัตถุดิบที่จำเป็น นักลงทุนที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI จะได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ภายใต้กฎหมาย เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการลงทุน อีกทั้ง BOI ยังมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนธุรกิจในพื้นที่ศักยภาพของประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และเพิ่มการจ้างงานในชุมชน

ให้สิทธิและประโยชน์การลงทุนในกิจการอะไรบ้าง

BOI ส่งเสริมการลงทุนใน 8 ประเภทกิจการหลัก ดังนี้

  1. อุตสาหกรรมเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตร : ครอบคลุมธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เช่น การเพาะปลูกและการดำเนินงานด้านการเกษตร
  2. เหมืองแร่, เซรามิกส์ และโลหะขั้นต้น : ดำเนินธุรกิจด้านการสกัดแร่และการผลิตผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เช่น แร่เหลืองและเศษซากโลหะ อุตสาหกรรมเบาครอบคลุมการผลิตสินค้าน้ำหนักเบาและขนาดเล็ก เช่น เครื่องประดับ เสื้อผ้า รองเท้า และของเล่น
  3. อุตสาหกรรมเบา : ประกอบด้วยกิจการที่ผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำหนักเบาและขนาดเล็ก เช่น การผลิตเครื่องประดับ, เสื้อผ้า, รองเท้า, และของเล่น  เป็นต้น
  4. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ : ดำเนินธุรกิจด้านอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และซอฟต์แวร์
  5. อุตสาหกรรมเครื่องกลและยานยนต์ : ประกอบด้วยธุรกิจด้านการผลิตเครื่องกลและยานยนต์ เช่น เครื่องจักรกลและรถยนต์
  6. อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ :กิจการที่ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เครื่องปรับอากาศและเครื่องเล่นเกม
  7. อุตสาหกรรมพัสดุและการบรรจุหีบห่อ :กิจการที่ผลิตวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำหรับบรรจุภัณฑ์ เช่น กล่องพัสดุและหีบห่อสำหรับการขนส่ง
  8. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ : กิจการที่ผลิตผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีสุขภาพ เช่น อุปกรณ์การแพทย์และยา

BOI มอบสิทธิพิเศษและส่วนลดภาษีให้กับธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมตามประเภทต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการลงทุนและสร้างโอกาสงานในประเทศไทย โดยเงื่อนไขและสิทธิประโยชน์อาจมีการปรับเปลี่ยนตามนโยบายของประเทศในแต่ละช่วงเวลา

boi มีขั้นตอนการทำอย่างไร แบบไม่เสียค่าธรรมเนียม

การยื่นขอ บีโอไอมีหลักเกณฑ์เบื้องต้นที่ต้องปฏิบัติตาม

  • นักลงทุนไทยหรือชาวต่างชาติที่สนใจขยายธุรกิจหรือเริ่มต้นธุรกิจใหม่สามารถยื่นขอได้
  • เจ้าของธุรกิจ SMEs ควรมีเงินลงทุนเริ่มต้นขั้นต่ำ 5 แสนถึง 1 ล้านบาท (ไม่รวมทุนหมุนเวียนและที่ดิน)
  • ต้องมีธุรกิจหรือบริการที่ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอไม่น้อยกว่า 300 ประเภท พร้อมใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการดำเนินงาน

การขอ BOI (คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) มีขั้นตอนที่นักลงทุนต้องดำเนินการตามดังนี้

1. ศึกษารายละเอียด

ผู้ประกอบการหรือนักลงทุนที่ต้องการศึกษารายละเอียดเบื้องต้น สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่

  • ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ไบไออีส่วนกลาง ภูมิภาค หรือสำนักงานต่างประเทศ
  • ที่เว็บไซต์  www.boi.go.th
ศึกษารายละเอียด boi

2. ยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน

นักลงทุนสามารถยื่นคำขอเพื่อขอสิทธิพิเศษและสวัสดิการจาก BOI ได้ทางออนไลน์ เท่านั้น !! ผ่านระบบ e-Investment Promotion โดยกรอกรายละเอียดโครงการลงทุน วัตถุประสงค์ และข้อมูลธุรกิจ ที่เว็บไซต์ www.boi.go.th คลิกที่ลิงค์นี้ >> https://boi-investment.boi.go.th/public/

ในกรณีข้อยกเว้น สามารถยื่นคำขอต่อไปนี้ในรูปแบบเอกสารได้ตามปกติ

  • การขอรับการส่งเสริมเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการผลิต
  • การยื่นขอรับการส่งเสริมเพื่อโอนกิจการ
  • มาตรการสนับสนุนการลงทุนเพื่อการพัฒนาชุมชนและสังคม
ยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน boi

3. ดำเนินงานชี้แจงโครงการ  

นักลงทุนสามารถเริ่มโครงการลงทุนในไทยได้ตามแผนที่กำหนด โดยต้องนัดหมายเจ้าหน้าที่ บีโอไอ ภายใน 10 วันหลังยื่นคำขอ เพื่อชี้แจงรายละเอียดก่อนเริ่มดำเนินการ

ดำเนินงานชี้แจงโครงการ boi

4. เริ่มวิเคราะห์โครงการ

เจ้าหน้าที่บีโอไอจะทำการวิเคราะห์โครงการตามขนาดการลงทุนของผู้ประกอบการหรือนักธุรกิจในระยะเวลาที่เหมาะสม

  • การพิจารณาสำหรับเงินลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท จะใช้เวลาไม่เกิน 40 วัน (นับจากวันที่เอกสารครบถ้วน)
  • การพิจารณาสำหรับเงินลงทุนไม่เกิน 2,000 ล้านบาท จะใช้เวลาไม่เกิน 60 วัน (นับจากวันที่เอกสารครบถ้วน)
  • การพิจารณาสำหรับเงินลงทุนไม่เกิน 2,000 ล้านบาท จะใช้เวลาไม่เกิน 90 วัน (นับจากวันที่เอกสารครบถ้วน)

5. การพิจารณาและการตรวจสอบ

เจ้าหน้าที่ BOI จะพิจารณาคำขอและตรวจสอบความเหมาะสมของโครงการ ก่อนแจ้งผลการพิจารณาภายใน 7 วัน หลังจากได้รับรองรายงานประชุม

6. ตอบรับมติส่งเสริมการลงทุน

ผู้ที่ต้องการขอรับการส่งเสริมการลงทุนสามารถตอบรับภายใน 1 เดือนนับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งมติ โดยมี 2 ช่องทางให้เลือกตอบรับ

  • กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มผ่านระบบ e-Investment Promotion ที่ www.boi.go.th
  • ยื่นแบบตอบรับมติการส่งเสริมการลงทุน (แบบฟอร์ม F GA CT 07)
การยื่นขอบัตรส่งเสริม boi

7. การยื่นขอบัตรส่งเสริม

ผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนสามารถยื่นขอรับบัตรส่งเสริม พร้อมเอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาภายใน 6 เดือน ผ่านทั้ง 2 ช่องทาง

  • กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มผ่านระบบ e-Investment Promotion ที่ www.boi.go.th
  • กรอกข้อมูลในแบบฟอร์ม (แบบฟอร์ม F GA CT 08) และยื่นเอกสารที่เตรียมไว้เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอรับบัตรส่งเสริม
การยื่นขอบัตรส่งเสริม boi

8) ดำเนินการออกบัตรส่งเสริม

เจ้าหน้าที่ boi จะออกบัตรส่งเสริมให้กับเจ้าของธุรกิจหรือกิจการภายใน 10 วันทำการ หลังจากที่สำนักงานได้รับเอกสารหลักฐานและแบบฟอร์มขอรับบัตรครบถ้วน

ขั้นตอนหลักในกระบวนการทำ BOI ที่กล่าวถึงข้างต้น อาจมีรายละเอียดหรือขั้นตอนย่อยเพิ่มเติม ขึ้นอยู่กับลักษณะและขนาดของโครงการที่นักลงทุนดำเนินการในประเทศไทย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภาคที่ 1 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน

การส่งเสริมการลงทุนจาก BOI นักลงทุนจะได้สิทธิประโยชน์อะไรบ้าง

ช่วยเพิ่มโอกาสให้กับนักลงทุนในการเข้าถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่จะสนับสนุนการเติบโตและขยายธุรกิจได้อย่างยั่งยืน โดย 2 สิทธิประโยชน์หลักที่นักลงทุนจะได้รับ ดังนี้

สิทธิประโยชน์ด้านภาษี

  • ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลสูงสุด 13 ปี (ตามเงื่อนไขของแต่ละกิจการ)
  • ได้รับสิทธิ์ลดหย่อนภาษีเงินได้ 50% เป็นเวลา 5 ปี (เฉพาะในเขตลงทุน)
  • ได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร
  • ได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าวัตถุดิบสำหรับการส่งออก นอกประเทศ
  • ได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการพัฒนาและวิจัย

สิทธิประโยชน์ด้านที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษี

  • อนุญาตให้ชาวต่างชาติถือหุ้นได้ 100% ยกเว้นกิจการที่มีข้อกำหนดเฉพาะตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวหรือกฎหมายอื่น
  • อนุญาตให้ถือครองกรรมสิทธิ์ที่ดิน
  • อนุญาตให้ช่างฝีมือหรือผู้ชำนาญการเข้ามาทำงานในประเทศได้

สรุป การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI สำหรับนักธุรกิจหรือผู้ประกอบการไม่ใช่เรื่องยาก หากเตรียมเอกสารให้พร้อมและปฏิบัติตามขั้นตอนที่เราแนะนำในบทความนี้ การยื่นขอรับบัตรส่งเสริมจะง่ายขึ้น และบริษัทของคุณมีโอกาสสูงที่จะได้รับการพิจารณาเร็วกว่าบริษัทอื่นๆ หากเอกสารครบถ้วนสมบูรณ์ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ทั้งจากตำแหน่งที่ตั้ง, ทรัพยากรธรรมชาติ, แรงงานที่มีความชำนาญ และสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การละเว้นภาษี, อัตราภาษีที่ลดลง, และการยกเว้นอากรศุลกากร ที่จะช่วยเสริมสร้างธุรกิจตั้งแต่ระยะเริ่มต้นไปจนถึงระยะยาว


โกดังเก็บของ เก็บสินค้า ให้เช่าในราคาถูก ราคารวมภาษีทุกอย่าง ทำให้สามารถลดต้นทุนของลูกค้าได้

ยูนิตว่าง พร้อมให้เช่า คลิ๊กดูโครงการได้ที่นี่

ที่สำคัญโกดังให้เช่า ตั้งอยู่ในทำเลทองหรือสนใจสอบถาม โกดังเก็บสินค้าของ bkkwarehouse

Hotline : 089-768-5205 / 063-829-6219  Telephone : 0-2394-5409

LINE ID : @bkkwarehouse
https://lin.ee/5CuTpWq