BOI คืออะไร? BOI คือ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) มีบทบาทสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ก้าวข้ามกับดักประเทศรายได้ปานกลางและเติบโตอย่างยั่งยืน หน้าที่หลักของ BOI คือการส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย การได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI มอบสิทธิประโยชน์มากมายให้กับธุรกิจ แอดมินจะพาคุณไปเจาะลึกถึงข้อดีเหล่านี้แบบเข้าใจง่าย เพื่อให้คุณเห็นภาพว่า BOI สามารถช่วยธุรกิจของคุณได้อย่างไร
สารบัญ
1. เหตุผลที่ดึงดูดนักลงทุนทำไมต้องลงทุนในไทย
2. ปลดล็อกความได้เปรียบทางธุรกิจ ด้วย สิทธิประโยชน์ BOI
- สิทธิประโยชน์ด้านภาษี ต้นทุนที่ลดลง คือกำไรที่เพิ่มขึ้น
- สิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษี เพิ่มอิสระในการตัดสินใจ
3. 8 ประเภทกิจการที่ BOI ส่งเสริมการลงทุน ปี 2025
- หลักเกณฑ์อนุมัติ BOI กุญแจสู่ความสำเร็จในการลงทุน
- สรุปเงินลงทุน & ความเป็นไปได้โครงการ BOI
- กระบวนการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนและรับสิทธิประโยชน์จาก BOI
- BOI ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าคุณเข้าใจเงื่อนไขเหล่านี้
เหตุผลที่ดึงดูดนักลงทุนทำไมต้องลงทุนในไทย
นี่คือคำถามที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ และคำตอบไม่ได้จำกัดอยู่แค่ทรัพยากรธรรมชาติหรือภูมิประเทศที่สวยงาม แต่ลึกลงไปถึงปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ทำให้ไทยเป็นฐานการลงทุนที่แข็งแกร่ง
การลงทุนในประเทศไทยมีข้อดีอย่างไร? นี่คือคำถามที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจ และคำตอบไม่ได้จำกัดอยู่แค่ทรัพยากรธรรมชาติหรือภูมิประเทศที่สวยงาม แต่ลึกลงไปถึงปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ทำให้ไทยเป็นฐานการลงทุนที่แข็งแกร่ง
ประเทศไทยโดดเด่นด้วย
- บุคลากรคุณภาพสูงและจำนวนมาก : แรงงานไทยมีทักษะหลากหลายและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและบริการที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง
- อู่ข้าวอู่น้ำแห่งเอเชีย : ศักยภาพด้านเกษตรกรรมของไทยนั้นไร้เทียมทาน ด้วยผลผลิตที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลาย ทั้งข้าว ยางพารา อ้อย รวมถึงพืชผักผลไม้สดคุณภาพดี ซึ่งเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมแปรรูป
- จุดศูนย์กลางการเชื่อมโยงภูมิภาค : การเป็นประตูสู่อาเซียน ทำให้ไทยได้เปรียบอย่างยิ่งในด้านโลจิสติกส์และการคมนาคมขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายสินค้าและบริการไปยังตลาดสำคัญทั่วภูมิภาค
ปัจจัยเหล่านี้รวมกันสร้างระบบนิเวศที่เอื้อต่อการลงทุน ทำให้ประเทศไทยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาการเติบโตอย่างยั่งยืนและผลตอบแทนที่คุ้มค่า

ปลดล็อกความได้เปรียบทางธุรกิจ ด้วย สิทธิประโยชน์ BOI
ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจที่ผันผวน SME ไทยกว่า 3.2 ล้านราย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของประเทศ กำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างหนัก การสนับสนุนจากภาครัฐ โดยเฉพาะจาก BOI (คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) อาจเป็นเพียงกลไกที่เข้าถึงได้ยากสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก? หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่กำลังเผชิญกับอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เทคโนโลยี หรือโอกาสในการขยายตลาด คุณคงเคยรู้สึกว่าการเติบโตในโลกธุรกิจวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และคำถามที่คาใจคือ BOI ช่วย SME อย่างไร ไม่ใช่แค่บริษัทใหญ่เท่านั้นที่ได้รับสิทธิประโยชน์ แต่ BOI มีนโยบายและแนวทางที่ชัดเจนในการสนับสนุนผู้ประกอบการและ SME ไทยอย่างทั่วถึง เพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว การได้รับการสนับสนุนจาก BOI ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของ “สิทธิประโยชน์” แต่คือการวางรากฐานให้ธุรกิจของคุณสามารถเร่งสปีด เติบโต และทะยานสู่ตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ
สิทธิประโยชน์ด้านภาษี ต้นทุนที่ลดลง คือกำไรที่เพิ่มขึ้น
- พักภาษีเพื่อสะสมทุน : สำหรับธุรกิจที่เข้าเกณฑ์ BOI คุณอาจได้รับการงดเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลนานสูงสุดถึง 13 ปี นั่นคือช่วงเวลาทองที่คุณสามารถนำกำไรกลับมาหมุนลงทุนใหม่โดยไม่ต้องแบ่งให้รัฐในทันที (ขึ้นอยู่กับประเภทกิจการและเงื่อนไขที่กำหนด)
- ช่วงต่อเนื่อง ลดหย่อนอีก 50% : หลังหมดช่วงยกเว้น ยังมีการขยายผลทางภาษีต่ออีก 5 ปี (สำหรับผู้ประกอบการในพื้นที่ยุทธศาสตร์หรือนวัตกรรม)
- เครื่องจักร วัตถุดิบ และนวัตกรรม ไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้า : BOI สนับสนุนการลดต้นทุนตั้งแต่ต้นทางของการผลิต รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ใน R&D ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเดินเกมเทคโนโลยีได้เร็วขึ้น
สิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ภาษี เพิ่มอิสระในการตัดสินใจ
-
ต่างชาติถือหุ้นเต็ม 100% : ไม่ต้องจับมือกับพาร์ตเนอร์ท้องถิ่น หากคุณพร้อมลงทุนเอง ก็สามารถบริหารกิจการได้เต็มรูปแบบโดยไม่ติดข้อจำกัด (ยกเว้นกิจการบางประเภทที่กฎหมายไทยกำหนดไว้เป็นการเฉพาะ)
-
สิทธิในการถือครองที่ดินสำหรับทำธุรกิจ : ในกรณีทั่วไป นักลงทุนต่างชาติไม่สามารถถือครองที่ดินได้ในไทย แต่ BOI เปิดช่องทางนี้ให้โดยเฉพาะ เพื่อรองรับการขยายตัวในระยะยาว
-
นำเข้าแรงงานและผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศได้สะดวกขึ้น : ไม่ต้องติดขัดเรื่องเอกสารยุ่งยาก สามารถดึงทีมงานระดับโลกเข้ามาขับเคลื่อนธุรกิจในไทยได้ทันที

8 ประเภทกิจการที่ BOI ส่งเสริมการลงทุน ปี 2025
BOI ได้แบ่งประเภทกิจการที่ได้รับการส่งเสริมออกเป็นหมวดหมู่กว้างๆ เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ นี่คือ 8 หมวดหมู่หลักที่คุณต้องจับตามอง
1) เกษตรกรรม อาหาร และเทคโนโลยีชีวภาพ : การยกระดับภาคเกษตรไทยด้วยนวัตกรรม เช่น การปรับปรุงพันธุ์พืช/สัตว์, เกษตรอัจฉริยะ, อาหารแปรรูปมูลค่าสูง, เทคโนโลยีชีวภาพเพื่อเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ
2) อุตสาหกรรมการแพทย์ : การผลิตยา, เครื่องมือแพทย์, โรงพยาบาล, คลินิกเฉพาะทาง, วิจัยและพัฒนาด้านการแพทย์
3) อุตสาหกรรมเครื่องจักรและยานยนต์ : การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV), ชิ้นส่วน EV, หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ, เครื่องจักรกลอัจฉริยะ
4) อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ : การผลิตเซมิคอนดักเตอร์, ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง, เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ, IoT
5) อุตสาหกรรมโลหะและวัสดุ : การผลิตโลหะพิเศษ, วัสดุขั้นสูง, วัสดุรีไซเคิล, การวิจัยและพัฒนาวัสดุใหม่ วัสดุสำหรับอากาศยาน หรือพลังงานสะอาด
6) อุตสาหกรรมเคมีและปิโตรเคมี : การผลิตเคมีภัณฑ์มูลค่าเพิ่มสูง, พลาสติกชีวภาพ, ปิโตรเคมีขั้นปลาย
7) กิจการบริการและสาธารณูปโภค : พลังงานสะอาด, โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล, นิคมอุตสาหกรรมอัจฉริยะ, บริการด้านโลจิสติกส์
8) อุตสาหกรรมดิจิทัล สร้างสรรค์ และบริการที่มีมูลค่าสูง : ซอฟต์แวร์, แพลตฟอร์มดิจิทัล, Animation, เกม, e-Commerce, FinTech, ศูนย์ข้อมูล

หลักเกณฑ์อนุมัติ BOI กุญแจสู่ความสำเร็จในการลงทุน
BOI ไม่ได้พิจารณาแค่ขนาดเงินลงทุน แต่ให้ความสำคัญกับ “คุณภาพ” และ “ศักยภาพ” ของโครงการในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย นี่คือหลักเกณฑ์สำคัญที่ถูกนำมาใช้พิจารณา
1) การยกระดับ “มูลค่าเพิ่ม” และ “ความสามารถในการแข่งขัน” ของภาคส่วน (หัวใจสำคัญของการอนุมัติ!)
- แก่นแท้ที่ BOI มองหา ไม่ใช่แค่การผลิต แต่เป็นการสร้างสรรค์คุณค่าที่เหนือกว่า โครงการของคุณต้องแสดงให้เห็นว่าสามารถเพิ่มมูลค่าให้กับ
ภาคเกษตร อุตสาหกรรม หรือบริการได้อย่างน้อย ร้อยละ 20 ของรายได้ (หรือ ร้อยละ 10 สำหรับกิจการเกษตรกรรม, อิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วน, และตัดโลหะ) - ต้องสะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง, การวิจัยและพัฒนา, หรือการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ หรือ บริการที่มีความซับซ้อนและแตกต่าง
- “มูลค่าเพิ่ม” ไม่ใช่แค่ตัวเลข แต่คือ “นวัตกรรม” และ “ศักยภาพในการแข่งขันระดับโลก” ที่โครงการของคุณจะนำมาสู่ประเทศไทย ปัจจัยที่ BOI ให้คะแนนเป็นพิเศษ เช่น การลงทุนด้าน R&D, การใช้ AI/Automation, การสร้างแบรนด์ เป็นต้น
2) กรรมวิธีการผลิตที่ทันสมัย” และ “เทคโนโลยีแห่งอนาคต
- BOI มองหาอะไร : โครงการต้องนำเสนอเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำสมัย ไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพ แต่ต้องคำนึงถึงความยั่งยืน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย
- ความทันสมัย” อย่างเทคโนโลยีที่ BOI ชื่นชอบ เช่น Industry 4.0, Smart Factory, การใช้ Big Data ในการบริหารจัดการการผลิต, หรือ Green Technology โดยเชื่อมโยงกับการลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความยั่งยืน
3) หลักเกณฑ์การใช้ “เครื่องจักร” (พลิกมุมมองจากข้อจำกัดเป็นโอกาส!)
- ภาพรวมที่ BOI ต้องการ : เน้นการใช้ เครื่องจักรใหม่ เพื่อกระตุ้นการลงทุนและยกระดับเทคโนโลยีของประเทศ แต่สำหรับ
“เครื่องจักรใช้แล้ว : BOI มีหลักเกณฑ์ที่ละเอียดอ่อน แต่ก็เปิดโอกาสให้ใช้ได้ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด เพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนนั้นคุ้มค่าและไม่กระทบต่อคุณภาพและสิ่งแวดล้อม ตามหลักเกณฑ์ดังนี้
- อายุไม่เกิน 5 ปี (นับจากปีที่ผลิตถึงปีที่นำเข้า) เครื่องจักรกลุ่มนี้ได้รับอนุญาตให้ใช้ในโครงการและ นับเป็นเงินลงทุนเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ ไม่ได้รับการยกเว้นอากรขาเข้า (ความน่าเชื่อถือของ “ใบรับรอง” จากสถาบันที่เชื่อถือได้) BOI ให้ความสำคัญอย่างมากกับใบรับรองที่ต้องครอบคลุมทั้ง ประสิทธิภาพ, ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม, การใช้พลังงาน, และการประเมินราคาที่เหมาะสม นี่คือสิ่งที่คุณต้องเตรียมให้พร้อม!
- อายุเกิน 5 ปี แต่ไม่เกิน 10 ปี (สำหรับ “เครื่องปั๊ม” เท่านั้น!) เป็นกรณีพิเศษสำหรับ “เครื่องปั๊ม” โดยเฉพาะ เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ต้องพึ่งพาเครื่องจักรประเภทนี้อย่างมาก หลักเกณฑ์คล้ายกับหลักเกณฑ์ข้อแรก คือ นับเป็นเงินลงทุนเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล แต่ ไม่ยกเว้นอากรขาเข้า และยังคงต้องมี ใบรับรอง ที่เข้มงวดเช่นกัน
- อายุเกิน 10 ปี (กรณีพิเศษสุดๆ สำหรับ “ขนส่งทางเรือ, ทางอากาศ, และแม่พิมพ์) สำหรับกิจการเฉพาะทางเหล่านี้ BOI เปิดโอกาสให้ใช้เครื่องจักรใช้แล้วที่มีอายุเกิน 10 ปีได้ตามความเหมาะสม (นี่คือข้อยกเว้นที่สำคัญ) และที่น่าสนใจคือ ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าด้วย และ นับเป็นเงินลงทุนเพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
สรุปเงินลงทุน & ความเป็นไปได้โครงการ BOI
การขอ BOI ไม่ได้ดูแค่ประเภทกิจการ แต่ดูความพร้อมด้าน “การเงิน” และ “ศักยภาพโครงการ” เป็นหลัก สรุปสั้นๆ คือ:
- เงินลงทุนขั้นต่ำ 1 ล้านบาท ส่วนใหญ่ โครงการต้องมีเงินลงทุน (ไม่รวมค่าที่ดิน/ทุนหมุนเวียน) ไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท ข้อยกเว้น บางกิจการมีเกณฑ์เฉพาะ หรือกิจการบริการฐานความรู้ จะพิจารณาจาก “เงินเดือนบุคลากรต่อปี” เป็นหลัก (BOI เน้นลงทุนในคนเก่ง!)
-
หนี้สินต่อทุนไม่เกิน 3:1 (โครงการใหม่) หรือ โครงการริเริ่มใหม่ ต้องมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนจดทะเบียน ไม่เกิน 3 ต่อ 1 เพื่อความมั่นคงทางการเงิน โครงการขยาย BOI พิจารณาเป็นกรณีไป
-
รายงานความเป็นไปได้ (สำหรับโครงการใหญ่) ถ้าเงินลงทุน เกิน 750 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดิน/ทุนหมุนเวียน) ต้องยื่นรายงานศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ เพื่อแสดงวิสัยทัศน์และแผนงานที่ชัดเจน
กระบวนการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนและรับสิทธิประโยชน์จาก BOI

BOI ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าคุณเข้าใจเงื่อนไขเหล่านี้
การขอรับการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI หลายคนอาจคิดว่า “การเข้า BOI เป็นเรื่องยุ่งยาก ซับซ้อน ต้องเตรียมเอกสารเยอะแยะ” หรือ “กิจการเราคงไม่เข้าข่ายหรอก” แต่ถ้าเราบอกว่า มีธุรกิจ SME เกิน 70% ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนแต่กลับไม่เคยยื่นขอรับการส่งเสริมจาก BOI เพียงเพราะข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เนื่องจาก BOI ไม่ได้อนุมัติโครงการแบบสุ่ม ทุกคำขอต้องผ่านเกณฑ์ที่ชัดเจน ในด้านของ ประเภทกิจการที่เข้าข่ายส่งเสริม , เงินลงทุน และ ความเป็นได้ของโครงการ โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติก็มีสูงมาก การยื่นเอกสารจะไม่ยากอีกต่อไป หากคุณเตรียมตัวมาดี และที่สำคัญ อย่าลืมว่า BOI มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้ธุรกิจไทยเติบโต จึงพร้อมให้คำปรึกษากับนักลงทุนเสมอ BOI มีระบบ e-Investment Platform สำหรับยื่นคำขอทางออนไลน์ คุณสามารถตรวจสอบขั้นตอนและดาวน์โหลดแบบฟอร์มล่าสุดได้ที่ www.boi.go.th
หากต้องการ อยากรู้ขั้นตอนการสร้างโรงงานตั้งแต่เริ่มต้นจนได้ใบอนุญาต เช็คเลย ร.ง.4 คืออะไร ใครต้องมี ขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานง่ายๆ คลิกอ่านรายละเอียดที่นี่!
Q&A คำถามที่พบบ่อย
BOI มอบสิทธิประโยชน์และแรงจูงใจแก่นักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพื่อส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายและพื้นที่ที่กำหนด
เหมาะสำหรับ ผู้ประกอบการที่มีวิสัยทัศน์ในการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และพร้อมที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ BOI กำหนด เพื่อรับสิทธิประโยชน์ที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ
ใช้สิทธิ์ได้ นักลงทุนต่างชาติที่ได้รับการส่งเสริมจาก BOI ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องการถือหุ้น เพราะในกรณีส่วนใหญ่ BOI อนุญาตให้ถือหุ้นได้เต็ม 100% ต่างจากธุรกิจทั่วไปที่ติดข้อจำกัดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ซึ่งแบ่งเป็นบัญชี 1-3 ที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ
ไม่ยากอย่างที่คิด หากคุณเตรียมข้อมูลมาอย่างครบถ้วน เข้าใจหลักเกณฑ์ที่ชัดเจน เช่น ประเภทกิจการ, มูลค่าการลงทุน, และการวางแผนธุรกิจอย่างเป็นระบบ โอกาสผ่านการอนุมัติก็สูงกว่าผู้ประกอบการทั่วไปที่ยื่นเรื่อง
BOI สามารถยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate Income Tax – CIT) ได้นานสูงสุดถึง 13 ปี
ผู้ประกอบการ ต้องมีเงินลงทุนขั้นต่ำของแต่ละโครงการไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท เพื่อสมัคร BOI
โกดังเก็บของ เก็บสินค้า ให้เช่าในราคาถูก ราคารวมภาษีทุกอย่าง ทำให้สามารถลดต้นทุนของลูกค้าได้
ที่สำคัญโกดังให้เช่า ตั้งอยู่ในทำเลทอง
หรือสนใจสอบถาม โกดังเก็บสินค้าของ bkkwarehouse
Hotline : 089-768-5205 / 063-829-6219 Telephone : 0-2394-5409
LINE ID : @bkkwarehouse
https://lin.ee/5CuTpWq
บทความแนะนำ
เจาะลึก! การขนส่งมีกี่ประเภท แต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง?
อ่านเนื้อหาก.ค.
คลีนรูม คืออะไร? มีกี่ประเภท และทำไมถึงสำคัญต่ออุตสาหกรรมยุคใหม่
อ่านเนื้อหามิ.ย.
BOI คืออะไร? สิทธิพิเศษที่ช่วยธุรกิจคุณโตไวในประเทศไทย ต้องรู้ก่อนเริ่มธุรกิจในไทย
อ่านเนื้อหามิ.ย.
1 ตารางเมตรเท่ากับกี่เมตร มาไขข้อข้องใจกัน พร้อมวิธีการคำนวณพื้นที่
อ่านเนื้อหาพ.ค.
สัญลักษณ์ไฟฟ้าพื้นฐานที่ควรรู้ พร้อมความหมาย (ล่าสุดสำหรับปี 2025)
อ่านเนื้อหาพ.ค.
สกรู คือ อะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง? รู้จักประเภทสกรูที่เหมาะกับงานช่างทุกแบบ
อ่านเนื้อหาพ.ค.