ขนส่ง ระหว่าง ประเทศ 2025 ที่ธุรกิจอีคอมเมิร์ซกำลังเฟื่องฟู การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศจากไทยไปทั่วโลกจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่อาจมองข้าม การเลือกใช้บริการบริษัทขนส่งที่เชื่อถือได้ช่วยให้การจัดส่งเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงเวลา บทความนี้ได้รวบรวม 10 ผู้ให้บริการขนส่งยอดนิยม พร้อมข้อมูลจุดเด่น ราคา และบริการที่ตอบโจทย์ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ
10 อันดับบริษัทส่งของไปต่างประเทศที่คนไทยไว้วางใจ
การขนส่งสินค้าไปต่างประเทศถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการทำธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเพื่อการค้า หรือส่งของส่วนตัว การเลือกบริษัทที่เหมาะสมช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นใจ
1. DHL Express
DHL (Dalsey, Hillblom and Lynn) เป็นพันธมิตรด้านการขนส่งระหว่างประเทศที่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ บริการหลักคือการส่งพัสดุด่วนถึงที่ (Door-to-Door Express) ครอบคลุมกว่า 220 ประเทศทั่วโลก ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการเริ่มต้นที่มีราคาไม่สูง พร้อมทั้งได้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการติดตามสถานะแบบออนไลน์แบบเรียลไทม์ จุดเด่นที่ทำให้ DHL ได้รับการยอมรับ คือความสามารถในการขนส่งที่รวดเร็ว ปลอดภัย และรองรับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่ร้านค้าออนไลน์ไปจนถึงบริษัทข้ามชาติ
บริการของขนส่ง
- ด้วยราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 1,200 บาท สำหรับพัสดุ 0.5 กิโลกรัม
- ผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงการขนส่งที่ทั้งรวดเร็วและปลอดภัย DHL โดดเด่นด้วยความสามารถในการส่งพัสดุไปยังปลายทางภายในเวลาเพียง 2–5 วัน
- มีระบบ Tracking แบบเรียลไทม์ ช่วยตรวจสอบสถานะได้ตลอดการเดินทาง และมีทีมงานที่ช่วยดำเนินการ ผ่านศุลกากร อย่างราบรื่น
2. FedEx
FedEx (FedEx NYSE: FDX) ในฐานะผู้นำด้านการขนส่งระดับนานาชาติ FedEx มอบบริการที่ครอบคลุมตั้งแต่เอกสารขนาดเล็กไปจนถึงสินค้าขนาดใหญ่ ด้วยเครือข่ายการจัดส่งที่ขยายครอบคลุมกว่า 220 ประเทศและเขตการปกครองทั่วโลก ทำให้มั่นใจได้ว่าสินค้าทุกชิ้นเดินทางถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและตรงเวลา
บริการของขนส่ง
- ค่าบริการขนส่งระหว่างประเทศ เริ่มต้นเพียง 1,100 บาท สำหรับน้ำหนัก 0.5 กิโลกรัม
- มาพร้อมการบริการที่ตอบโจทย์ทั้งความรวดเร็วและความสะดวก ผู้ส่งสามารถใช้บริการ Pick-up ถึงหน้าบ้าน โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
- พัสดุจะถึงมือผู้รับภายใน 1–3 วันทำการ อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบสถานะผ่าน ระบบติดตามออนไลน์ ได้ทันที
3. UPS (United Parcel Service)
เมื่อพูดถึงการส่งของไปต่างประเทศ UPS (United Parcel Service) ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ บริษัทมีชื่อเสียงด้านการให้บริการที่ครอบคลุมทั้งด้านเอกสารและพัสดุทุกประเภท โดยนำเสนอราคาที่ชัดเจนและเหมาะสม จุดเด่นสำคัญคือมาตรฐานระดับโลกที่เน้นทั้งความปลอดภัย ความรวดเร็ว และความสะดวกสบาย ทำให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่าของจะถึงมือผู้รับอย่างตรงเวลา
บริการของขนส่ง
- บริการ ขนส่งระหว่างประเทศ ที่ตอบโจทย์ทั้งความเร็วและความสะดวก เริ่มต้นเพียง 1,150 บาท สำหรับพัสดุ 0.5 กิโลกรัม
- ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่าสินค้าจะถึงมือผู้รับภายใน 2–5 วันทำการ พร้อมทั้งมีบริการ เข้ารับพัสดุถึงที่
- สามารถติดตามสถานะผ่าน ระบบออนไลน์แบบเรียลไทม์ ได้ทุกขั้นตอน
4. CJ Logistics
CJ Logistics คือบริษัทขนส่งสัญชาติเกาหลีที่ได้รับความนิยมทั่วโลก โดดเด่นเรื่องการส่งพัสดุระหว่างประเทศที่ทั้งรวดเร็วและประหยัด ลูกค้าสามารถใช้บริการได้ในราคาที่เริ่มต้นไม่สูง แต่ได้คุณภาพมาตรฐานโลก จุดแข็งอยู่ที่ เทคโนโลยีการจัดส่งอัจฉริยะ ทำให้ติดตามง่าย ส่งตรงถึงมือ และคุ้มค่าเงินที่สุด
บริการของขนส่ง
- ขนส่งระหว่างประเทศ ที่คุ้มค่าและเชื่อถือได้ ราคาประหยัด เหมาะสำหรับผู้ขายออนไลน์และผู้ส่งของทั่วไป ไม่ว่าจะส่งสินค้าไปประเทศใกล้หรือไกล
- บริการ เข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้าน โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
- รองรับระบบ เก็บเงินปลายทาง ซึ่งเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับธุรกิจ E-commerce ในการเพิ่มยอดขายและสร้างความมั่นใจให้ผู้ซื้อ
5. FBA Easy
FBA Easy (Fulfillment By Amazon) คือผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งระหว่างประเทศที่ตอบโจทย์ผู้ขายออนไลน์ยุคใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มที่ต้องการส่งสินค้าเข้าคลัง Amazon (FBA) อย่างสะดวกและปลอดภัย เรามีบริการครบวงจร ตั้งแต่การรับสินค้าที่ประเทศไทย การแพ็กกิ้ง ตรวจสอบคุณภาพ ไปจนถึงการจัดส่งถึงคลังสินค้าต่างประเทศ แบบมุ่งเน้นการส่งสินค้าเข้าคลัง door-to-warehouse
บริการของขนส่ง
- ค่าบริการ ขึ้นอยู่กับปลายทาง ประเภทสินค้า น้ำหนัก ปริมาตร รวมถึงวิธีการขนส่ง (อากาศ, เรือ หรือรถบรรทุกข้ามแดน) ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกแพ็กเกจที่เหมาะสมกับต้นทุนและความรวดเร็วที่ต้องการได้อย่างยืดหยุ่น
- เชี่ยวชาญการส่งออกไปยังคลังสินค้าของ Amazon (FBA Export Specialist)
- ที่ปรึกษาด้านโลจิสติกส์ส่งออกครบวงจร
- บริการแบบ One Stop Service ครอบคลุมทุกขั้นตอนตั้งแต่การรับสินค้า การตรวจสอบคุณภาพ การบรรจุหีบห่อ การทำประกันการขนส่ง ไปจนถึงการจัดส่งถึงท่าเรือ สนามบิน หรือประตูคลังปลายทาง
6. ShipAny
ShipAny คือแพลตฟอร์มด้าน ขนส่งระหว่างประเทศ ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจและบุคคลทั่วไปสามารถจัดส่งสินค้าได้สะดวก รวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่าย รองรับการขนส่งทั้ง ทางเรือ, ทางอากาศ และทางบก ด้วยเทคโนโลยีโลจิสติกส์อัจฉริยะ ShipAny ได้กลายเป็นพันธมิตรสำคัญของร้านค้าออนไลน์กว่า 7,000 ร้าน ใน ฮ่องกง ไต้หวัน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ต้องการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลก
บริการของขนส่ง
- ค่าใช้จ่ายในการขนส่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นประเภทการขนส่ง (ทางอากาศ ทางเรือ หรือทางบก) น้ำหนักและปริมาตรของสินค้า รวมถึงประเทศปลายทางที่ต้องการจัดส่ง
- บริการขนส่งที่หลากหลาย ทั้งขนส่งด่วนทางอากาศที่เน้นความเร็ว ขนส่งทางเรือที่เน้นความคุ้มค่า และขนส่งทางบกสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อรองรับทุกประเภทสินค้า
- ระบบติดตามสินค้ายุคใหม่ ตรวจสอบสถานะสินค้าได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบออนไลน์ ทำให้มั่นใจว่าสินค้าจะถูกส่งถึงปลายทางตรงเวลา
- ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการส่งออก นำเข้า รวมถึงการวางแผนโลจิสติกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจของคุณ
7. Sabuy Express
หากต้องการใช้บริการ ขนส่งระหว่างประเทศ ในราคาที่ประหยัดแต่ยังคงไว้ซึ่งมาตรฐานระดับโลก Sabuy Express คืออีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ด้วยการเป็นพันธมิตรกับผู้ให้บริการชั้นนำ อาทิ UPS, DHL และ FedEx ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลราคาเริ่มต้นได้ง่าย พร้อมจุดเด่นคือการบริหารจัดการพัสดุอย่างเป็นระบบ มีทีมงานช่วยดูแลในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การแพ็กกิ้งไปจนถึงติดตามสถานะการจัดส่ง
บริการของขนส่ง
- ค่าบริการจัดส่งพัสดุระหว่างประเทศเริ่มต้นที่ ประมาณ 800 บาท สำหรับสินค้าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 0.5 กิโลกรัม ราคานี้อาจมีการปรับเปลี่ยนตาม ปลายทาง ประเทศที่จัดส่ง ประเภทสินค้า และความเร่งด่วนของบริการ
- รับพัสดุถึงบ้าน ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังศูนย์บริการ เพียงแจ้งวันและเวลาที่สะดวก เจ้าหน้าที่จะเข้ามารับของถึงหน้าบ้าน
- มีทีมงานช่วยแพ็คหีบห่อให้ได้มาตรฐานสากล ป้องกันการกระแทกและความเสียหายขณะขนส่งตลอดระยะทาง
8. Bullet International Logistics
ที่รู้จักกันดีในนามบริษัท Bullet International Logistics (Thailand) Co., Ltd. เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งระหว่างประเทศ ครอบคลุมบริการนำเข้าและส่งออกสินค้าจากทุกภูมิภาคทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งทางเรือหรือทางอากาศ โดยมุ่งมั่นส่งมอบความรวดเร็วและปลอดภัยให้แก่ลูกค้าในทุกขั้นตอน
บริการของขนส่ง
- คิดค่าบริการตามปลายทาง น้ำหนัก และประเภทสินค้า รวมทั้งค่าใช้จ่ายหลักและค่าธรรมเนียมเสริม เพื่อให้ได้ราคาที่เหมาะสมและโปร่งใส
- มีบริการขนส่งทางอากาศ ที่เน้นความรวดเร็ว เหมาะสำหรับสินค้าที่มีมูลค่าสูงหรือเวลาจำกัด และการขนส่งทางทะเล
- ผู้ให้บริการมีพันธมิตรและสายการขนส่งในหลายประเทศ ทำให้สามารถเชื่อมต่อจุดหมายปลายทางได้ทั้งใน เอเชีย ยุโรป อเมริกา และตะวันออกกลาง ครอบคลุมเส้นทางหลักและเส้นทางเฉพาะ (Special Route)
- ครบวงจร รับสินค้า–แพ็คกิ้ง–เคลียร์ศุลกากร–ส่งถึงปลายทาง (Door-to-Door)
- ติดตามเรียลไทม์ ตรวจสอบสถานะสินค้าได้ตลอด 24 ชม.
9. SME SHIPPING
เมื่อพูดถึง บริการขนส่งระหว่างประเทศ SME SHIPPING คืออีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งความเร็วและความคุ้มค่า ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระดับโลก เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกวิธีการขนส่งได้ตามงบประมาณและความเร่งด่วน ครอบคลุมกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Express, Economy หรือ Air Cargo
บริการของขนส่ง
- ราคาการขนส่งระหว่างประเทศไม่ได้กำหนดตายตัว ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลัก ปลายทาง-ประเภทสินค้า และ การขนส่ง
- Door-to-Door Service: รับสินค้าถึงหน้าประตู และส่งถึงผู้รับโดยตรง ลดความยุ่งยากเรื่องพิธีการและการเดินทาง
- มีบริการบรรจุหีบห่อที่ได้มาตรฐานสากล ป้องกันสินค้าเสียหายระหว่างการเดินทาง
- ให้คำปรึกษาด้านกฎระเบียบ พิธีการศุลกากร เอกสารนำเข้า–ส่งออก และการเลือกเส้นทางที่คุ้มค่าที่สุด
10. FastShip
FastShip ขยายโอกาสให้การขนส่งระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่าย ด้วยเครือข่ายการจัดส่งจากผู้ให้บริการระดับอินเตอร์ ผ่านพันธมิตรโลจิสติกส์สากลหลากหลายเจ้า อย่างเช่น FedEx, Aramex, UPS ผู้ใช้งานจะได้ราคาที่ประหยัดกว่าการใช้บริการตรง พร้อมสิทธิ์ให้เจ้าหน้าที่เข้ารับพัสดุจากบ้านโดยตรง
บริการของขนส่ง
- ราคาเริ่มต้นยืดหยุ่น ปรับตามปลายทาง ประเภทสินค้า และวิธีการขนส่ง
- สะดวกกว่าส่งเอง เพราะมีบริการเข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้าน ลดภาระเรื่องเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
- ตัวเลือกบริการหลากหลาย เช่น ด่วนพิเศษสำหรับสินค้าต้องการความเร็ว มาตรฐานเพื่อประหยัดต้นทุน หรือการขนส่งทางเรือที่เหมาะกับสินค้าจำนวนมาก
เลือกบริษัท ขนส่ง ระหว่าง ประเทศ อย่างไรให้ตอบโจทย์
การเลือกพันธมิตรด้าน ขนส่งระหว่างประเทศ ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่ราคาหรือชื่อเสียง แต่เกี่ยวข้องกับความสามารถในการบริหารจัดการตลอดเส้นทางการขนส่ง ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ปัจจัยหลักที่ควรพิจารณา มีดังนี้
- ความน่าเชื่อถือและประสบการณ์ บริษัทที่มีเครือข่ายครอบคลุมหลายประเทศและมีผลงานชัดเจน จะช่วยลดความเสี่ยงเรื่องความล่าช้าและความเสียหายของสินค้า
- มาตรฐานการบริการและความปลอดภัย ตรวจสอบว่ามีระบบติดตามสถานะสินค้า (Tracking System) แบบเรียลไทม์ และมีมาตรการดูแลสินค้าตามมาตรฐานสากล เช่น ISO หรือ IATA
- ความยืดหยุ่นในการขนส่ง บริษัทที่สามารถจัดการได้ทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบก รวมถึงมีบริการ Multimodal Transport จะช่วยให้คุณปรับกลยุทธ์ได้ตามงบประมาณและระยะเวลา (เจาะลึก! การขนส่งมีกี่ประเภท แต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง?)
- ต้นทุนที่คุ้มค่าและโปร่งใส ไม่ใช่แค่ราคาถูก แต่ต้องรวมไปถึงการแจ้งค่าธรรมเนียมต่างๆ อย่างชัดเจน เช่น ภาษีนำเข้า ค่าประกันสินค้า และค่าดำเนินพิธีศุลกากร
- การสนับสนุนด้านเอกสารและกฎระเบียบ บริษัทที่มีความรู้เรื่องกฎหมายการค้าระหว่างประเทศและสามารถช่วยเรื่องเอกสารศุลกากร จะช่วยลดความยุ่งยากและความเสี่ยงด้านกฎหมาย
- เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผู้ให้บริการที่ลงทุนในระบบดิจิทัล เช่น AI ในการคาดการณ์เส้นทาง หรือระบบ IoT เพื่อตรวจสอบสภาพสินค้า จะสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน
สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเมื่อคิดจะส่งพัสดุไปต่างประเทศ
การส่งพัสดุระหว่างประเทศไม่ใช่เพียงแค่เรื่องค่าใช้จ่าย แต่ยังเกี่ยวข้องกับความน่าเชื่อถือและความรวดเร็วในการจัดส่ง และหลายคนมักคิดว่าการส่งของไปต่างประเทศเหมือนกับการส่งภายในประเทศ แต่ในความจริงมีปัจจัยซับซ้อนมากกว่า ทั้งเรื่องข้อห้ามการนำเข้าสินค้าบางประเภท
1. ตรวจสอบเงื่อนไขการนำเข้าสินค้าของประเทศปลายทาง
ก่อนส่งออกสินค้า ควรเริ่มจากการค้นหากฎที่เฉพาะเจาะจงของประเทศปลายทาง เนื่องจากข้อกำหนดแต่ละที่มีความต่างกัน ทั้งในแง่ข้อห้ามและเอกสารที่ต้องเตรียม (พิกัดศุลกากร (HS Code) สำคัญอย่างไรกับการนำเข้าส่งออก)
- ข้อจำกัดสินค้า : ประเทศปลายทางอาจมีข้อห้ามกับสินค้าบางชนิด เช่น ของสด วัตถุไวไฟ หรือสินค้าที่มีภาษีสรรพสามิตสูง
- เอกสารบังคับใช้ : นอกจากใบอนุญาตนำเข้า อาจต้องใช้เอกสารประกอบอื่น เช่น หนังสือยืนยันมาตรฐานความปลอดภัย หรือเอกสารรับรองแหล่งผลิต เพื่อผ่านการตรวจสอบศุลกากรได้อย่างราบรื่น (ศุลกากร คือ ด่านแรกของการค้าระหว่างประเทศ มีหน้าที่อะไรบ้าง?)
2. เช็กลิสต์เอกสารให้ครบก่อนส่งออก
- ใบกำกับการค้า (Commercial Invoice) : ทำหน้าที่คล้ายใบเสร็จที่แสดงข้อมูลสินค้า รายละเอียดการซื้อขาย และราคาที่ตกลงกัน
- เอกสารการขนส่ง (Air Waybill / Shipping Label) : ใช้เป็นหลักฐานจากสายการบินหรือบริษัทขนส่ง ว่าสินค้าได้ถูกส่งขึ้นระบบขนส่งแล้วจริง
- หลักฐานยืนยันตัวตน : เช่น สำเนาบัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง ซึ่งอาจถูกขอเพิ่มเติมในบางกรณีตามเงื่อนไขของปลายทาง
- หนังสือรับรองถิ่นกำเนิด (Certificate of Origin) : ออกโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อระบุว่าสินค้านั้นผลิตจากประเทศใด และอาจช่วยลดภาษีนำเข้าได้
3. เลือกบริษัทขนส่งที่เชื่อถือได้
การส่งของไปต่างประเทศควรเลือกผู้ให้บริการที่มีมาตรฐาน เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าจะถึงมือผู้รับอย่างปลอดภัย โดยสิ่งที่ควรพิจารณา ได้แก่
- ติดตามพัสดุได้ตลอดเวลา : มีระบบ Tracking ที่ตรวจสอบสถานะได้จริง
- ช่วยเคลียร์ภาษีและศุลกากร : ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนให้ผู้ส่ง
- มีประกันสินค้า : ป้องกันความเสียหายหรือสูญหายระหว่างทาง
ผู้ให้บริการที่นิยม เช่น DHL, FedEx, UPS หรือบริการแบบ Aggregator อย่าง FastShip, SME Shipping ซึ่งช่วยเปรียบเทียบราคาและทางเลือกการจัดส่งให้สะดวกยิ่งขึ้น
4. เลือกบริษัทขนส่งที่เชื่อถือได้
เมื่อส่งของไปต่างประเทศ สิ่งสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ กฎภาษีและการตรวจปล่อยศุลกากร ซึ่งอาจส่งผลต่อความล่าช้าและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โดยมีประเด็นที่ควรรู้คือ
- สินค้านำเข้าบางประเภทมีภาษีปลายทาง ลูกค้าอาจต้องจ่ายค่าภาษีหรือค่าธรรมเนียมก่อนรับของ
- ทางเลือก DDP (Delivered Duty Paid) ผู้ส่งเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด ทำให้ผู้รับได้รับของได้ทันที ไม่ต้องจ่ายเพิ่มเอง
การเข้าใจระบบเหล่านี้ล่วงหน้า จะช่วยให้การส่งสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น และลดความเข้าใจผิดระหว่างผู้ขายกับผู้ซื้อ
5. บรรจุภัณฑ์ต้องได้มาตรฐาน
เพื่อป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่ง ควรเลือกบรรจุภัณฑ์ที่แข็งแรงและเหมาะสม โดยมีหลักง่าย ๆ ที่ควรใส่ใจ:
- เลือกกล่องและวัสดุป้องกันการกระแทก : เช่น กล่องสองชั้น บับเบิ้ลแรป หรือโฟม
- ปิดผนึกแน่นหนา : ใช้เทปกาวที่ทนทาน ไม่หลุดง่าย
- ติดสัญลักษณ์ชัดเจน : เช่น “Fragile” หรือ “ของแตกง่าย” เพื่อแจ้งผู้ขนส่งให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ
บรรจุภัณฑ์ที่ดีไม่เพียงป้องกันสินค้า แต่ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้ส่งอีกด้วย
6. คำนวณค่าส่งอย่างคุ้มค่า
การคิดราคาค่าขนส่งระหว่างประเทศมักพิจารณา 2 แบบ คือ
- น้ำหนักจริง (Actual Weight)
- น้ำหนักปริมาตร (Volumetric Weight) วัดจากขนาดกล่อง
บริษัทขนส่งจะเลือกอัตราที่สูงกว่าเสมอ ดังนั้นควรจัดบรรจุภัณฑ์ให้กะทัดรัดเพื่อลดต้นทุน และอย่าลืมเปรียบเทียบหลายเจ้า พร้อมเช็กโปรโมชั่นหรือส่วนลดเป็นประจำ เพื่อให้ได้ราคาที่คุ้มที่สุด
7. ทำประกันพัสดุ เพิ่มความอุ่นใจ
- หากสินค้ามีมูลค่าสูง การซื้อประกันถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะช่วยคุ้มครองกรณี สูญหายหรือเสียหายระหว่างทาง แม้จะเพิ่มค่าใช้จ่ายเล็กน้อย แต่ก็เป็นการลงทุนเพื่อความสบายใจและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
8. เช็คระยะเวลาจัดส่งให้ชัดเจน
-
ด่วน (Express) : ประมาณ 1–5 วันทำการ
-
ปกติ (Standard/Economy) : ราว 7–14 วัน หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นกับปลายทางและขั้นตอนศุลกากร
9. เช็ควันหยุดปลายทาง
- วันหยุดราชการหรือเทศกาลท้องถิ่น อาจทำให้การจัดส่งล่าช้า
- ควร เช็กปฏิทินวันหยุดล่วงหน้า เพื่อวางแผนส่งสินค้าได้ตรงเวลา
10. แจ้งข้อมูลให้ครบถ้วน
- ร้านค้าออนไลน์ควรสื่อสารกับลูกค้าอย่างตรงไปตรงมา โดยบอกให้ชัดตั้งแต่แรก
- ว่ามีค่าขนส่งเท่าไรใช้เวลาจัดส่งกี่วันโดยประมาณอาจมีค่าใช้จ่ายหรือความล่าช้าเพิ่ม เช่น ภาษีนำเข้าหรือขั้นตอนศุลกากร
สรุป
การเลือกผู้ให้บริการ ขนส่ง ระหว่าง ประเทศ ที่เหมาะสมมีผลโดยตรงต่อความสำเร็จของธุรกิจ การตัดสินใจไม่ควรพิจารณาเพียงแค่ “ราคา” แต่ควรมองภาพรวมตั้งแต่ความน่าเชื่อถือของบริษัท ความสามารถในการรักษาความปลอดภัยสินค้า ความรวดเร็วของการจัดส่ง ตลอดจนการมีระบบติดตามสถานะที่โปร่งใสและใช้งานง่าย นอกจากนี้ บริการเสริม เช่น การเคลียร์ศุลกากรหรือการประกันภัย ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มความมั่นใจว่าสินค้าจะถึงปลายทางได้ตรงเวลาและคุ้มค่าที่สุด
โกดังเก็บของ เก็บสินค้า ให้เช่าในราคาถูก ราคารวมภาษีทุกอย่าง ทำให้สามารถลดต้นทุนของลูกค้าได้
ที่สำคัญโกดังให้เช่า ตั้งอยู่ในทำเลทอง
หรือสนใจสอบถาม โกดังเก็บสินค้าของ bkkwarehouse
Hotline : 089-768-5205 / 063-829-6219 Telephone : 0-2394-5409
LINE ID : @bkkwarehouse
https://lin.ee/5CuTpWq


บทความแนะนำ
Reverse Logistics กลไกคืนสินค้าที่พลิกต้นทุนให้เป็นรายได้ คืออะไร?
อ่านเนื้อหาพ.ย.
ธุรกิจยุคใหม่ต้องรู้! 3PL คือ อะไร ทำไมถึงช่วยลดต้นทุนได้จริง
อ่านเนื้อหาต.ค.
สรุปความหมายของ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management) ฉบับเข้าใจง่าย
อ่านเนื้อหาต.ค.
ขนส่ง ระหว่าง ประเทศ 2025 รวมบริษัทชั้นนำ พร้อมเปรียบเทียบราคาและบริการ
อ่านเนื้อหาก.ย.
เจาะลึก! การขนส่งมีกี่ประเภท แต่ละแบบมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง?
อ่านเนื้อหาก.ค.
คลีนรูม คืออะไร? มีกี่ประเภท และทำไมถึงสำคัญต่ออุตสาหกรรมยุคใหม่
อ่านเนื้อหามิ.ย.